อ่างทอง-ชัยนาท - ถนนสายเอเชียการจราจรเริ่มคึกคัก ประชาชนบางส่วนเริ่มหยุดงานได้พากันทยอยเดินทาง ด้านขนส่งชัยนาท ตั้งจุดตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะ และคนขับ ลดปัจจัยเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์
อ่างทอง ประชาชนเริ่มเดินทางขึ้นเหนือถนนสายเอเชียขาขึ้นเริ่มคึกคัก การจราจรเริ่มชะลอตัว บริเวณคอสะพาน และจุดกลับรถ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ประชาชนเริ่มเดินทางขึ้นเหนือท่องเที่ยว และเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ถนนสายเอเชียขาขึ้นภาคเหนือเริ่มคึกคัก ตั้งแต่เขตรอยต่อของอำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอดเส้นทางผ่านอำเภอไชโย ก่อนเข้าเขตของอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี พบว่า การจราจรค่อนข้างหนาแน่น มีรถเพิ่มปริมาณเป็นจำนวนมาก แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ โดยความเร็วอยู่ที่ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะชะลอตัวบริเวณคอสะพาน และจุดกลับรถ เนื่องจากประชาชนบางส่วนเริ่มหยุดงานได้พากันทยอยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารสาธารณะเพื่อเดินทางกลับบ้าน และท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภาคเหนือ
ชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนเริ่มออกเดินทางก่อนวันหยุดสงกรานต์กันแล้ว ซึ่งการจราจรบนถนนสายเอเชีย ช่วงผ่านจังหวัดชัยนาท มุ่งหน้าสู่จังหวัดทางภาคเหนือเริ่มมีรถมากขึ้น แต่ยังคล่องตัว มีชะลอตัวบ้างเล็กน้อยช่วงก่อนเข้าสี่แยกหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดสัญญาณไฟเขียวฝั่งขาขึ้นให้นานขึ้นจาก 4 นาที เป็น 9 นาที เพื่อระบายรถไม่ให้เกิดการติดขัดสะสม
ขณะที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย หลักกิโลเมตรที่ 133+500 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดชัยนาท ได้ตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ว่า รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ารถโดยสารคันใดไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก็จะสั่งห้ามใช้รถโดยสารนั้นทันที
นอกจากนี้ ยังตรวจสภาพร่างกายของพนักงานขับรถว่าเมาแล้วขับ หรือมีการเสพสารเสพติดหรือไม่ หากพบเมาแล้วขับ หรือมีสารเสพติดในร่างกายก็จะสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ทันทีเช่นกัน ทั้งนี้ ก็เพื่อลดปัจจัยความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
นางสุธีวรรณ ศรีสุข ขนส่งจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ตามที่กระทรวงคมนาคม กำหนดให้หน่วยงานในสังกัดขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน ดำเนินการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานขับรถ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ตลอด 24 ชั่วโมง
เนื่องจากกระทรวงคมนาคม เห็นว่า ในช่วงเทศกาลสำคัญจะมีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถโดยสารไม่ประจำทาง จึงให้กำหนดจุดตรวจขึ้นเพื่อตรวจสอบความพร้อมด้านร่างกาย ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และตรวจสอบระยะเวลาในการขับรถ รวมทั้งตรวจสอบการใช้ความเร็วของรถด้วย GPS Tracking รวมทั้งเพื่อเป็นการผ่อนคลายความเมื่อยล้า และอ่อนเพลียในการขับรถ โดยกำหนดจุดตรวจ Checkpoint และ Rest Area ทั่วประเทศ จำนวน 16 จังหวัด รวม 19 จุด