หนองคายรวบเจ้าหนี้ดอกโหดยึดของกลางเพียบ อ้างคิดดอกสูงป้องกันความเสี่ยงหนี้สูญ

หนองคาย - ตำรวจ ทหารร่วมสนธิกำลังจับกุมเจ้าหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยโหด ยึดของกลางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม และโฉนดที่ดินจำนวนมาก ด้านเจ้าตัวอ้างแค่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงินเท่านั้น และเหตุที่คิดดอกเบี้ยสูงร้อยละ 3-20 บาท/เดือน เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้เสีย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (5 เม.ย.) ที่หน้ากองกำกับการสืบสวน ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ประเสริฐ ธรรมชัย รอง ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย, ร.อ.ชวดล เสียงสนั่น ทหารประจำกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคาย และทหาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายพินิจ วงศ์เจริญ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 9 ต.วัดธาตุ อำเภอเมือง จ.หนองคาย เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ

ประกอบด้วย รถยนต์ 5 คัน, รถจักรยานยนต์ 18 คัน, รถไถ 1 คัน, หนังสือสัญญาเงินกู้และโฉนดที่ดิน จำนวน 54 ชุด, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 26 เล่ม, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เอทีเอ็ม) จำนวน 25 บัตร และสมุดรายชื่อลูกหนี้ จำนวน 1 เล่ม

พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย กล่าวว่า การตรวจค้นจับกุมเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย และ พ.อ.ยุวัติ ขันธปรีชา ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเน้นกลุ่มผู้มีอิทธิพลตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีกำหนด 16 กลุ่ม

หนึ่งในจำนวนนั้นคือกลุ่มผู้ปล่อยกู้ โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคาย และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย จึงได้ร่วมกันออกสืบสวนหาข่าว

จนกระทั่งทราบว่านายพินิจ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีพฤติการณ์รับจำนำทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมไปถึงที่ดิน โดยเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3-20 บาท/เดือน ถือว่าเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

โดยในเวลาประมาณ 15.00 น.ของเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจค้น โดยอาศัยอำนาจตามประกาศของหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559 พบของกลางดังกล่าวข้างต้นภายในบ้าน

จากการสอบถามนายพินิจ ผู้ต้องหา ได้ให้การว่าไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ประกอบกิจการรับจำนำแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงินเท่านั้น สาเหตุที่คิดดอกเบี้ยสูงเกินที่กฎหมายกำหนดนั้น เพื่อเป็นการชดเชยความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้เสีย

เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป