พิษณุโลก - เสือไฟสาวสวยละทิ้งทำงานห้องแอร์ จากสาวแบงก์หันเหเข้าป่า ทำงานสายควบคุมไฟป่าตามอุดมการณ์
วันนี้ (4 เม.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเสือไฟสาว ชื่อ นางสาวชาคิริยา พงษ์สุวรรณ ที่ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 อ.เมืองพิษณุโลก หลังจากมีการเปิดยุทธการ “3 เกาะติด 3 ปฏิบัติ รักษาป่า” ปล่อยแถวพนักงานพิทักษ์ป่าไปปฏิบัติการเข้าพื้นที่รับผิดชอบในห้วงวันหยุดในเขตจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ รวมทั้ง น.ส.ชาคิริยา พงษ์สุวรรณ สาวเสือไฟ ซึ่งทราบว่ามีอุดมการณ์ปกป้องกันไม่ให้มีไฟป่าเกิดขึ้น ถือเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลและแก้ไขปัญหา โดยทีมงานสาวสวยต้องลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อชี้แจงให้ความรู้แก่ประชาชนตระหนักถึงไฟป่าที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้ง ไม่ให้เกิดไฟป่าด้วยฝีมือมนุษย์
น.ส.ชาคิริยา พงษ์สุวรรณ สาวเสือไฟ เปิดเผยว่า ตนทำงานร่วมกับส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า 8 เดือนแล้ว ก่อนหน้าทำงานอยู่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลพลาซา จ.เชียงราย เนื่องจากครอบครัวเป็นคนกำแพงเพชร ซึ่งบิดาทำงานอยู่ที่พิษณุโลก จึงกลับมาอยู่กับครอบครัว และได้มาทำงานเสือไฟ ที่ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งการทำงานดังกล่าวแตกต่างกับการทำงานที่ธนาคาร เพราะธนาคารจะพบปะลูกค้าเป็นจำนวนมาก การทำงานจะสบายกว่าอยู่ที่ไฟป่า แต่ด้วยความที่ชอบและรักในงานด้านไฟป่า จึงตัดสินใจมาทำงานอยู่ส่วนควบคุมไฟป่า
“"หน้าที่ของดิฉันคือ ต้องออกไปให้ความรู้ในพื้นที่ หรือให้คำแนะนำอบรมเรื่องผลกระทบจากการเกิดไฟป่า เป้าหมายทำให้ไฟป่าลดลง”
นายวิโรจน์ ธีระแนว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.11 เปิดเผยว่า หน้าที่หลักคือป้องกันไฟป่าไม่ให้เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งหน่วยควบคุมไฟป่าของอนุรักษ์ฯ 11 แบ่งออกเป็น 8 สถานี คือ จ.อุตรดิตถ์ สถานีสักใหญ่ ที่พิษณุโลก สถานีสอยดาว สถานีภูเมี่ยง สถานีภูทอง สถานีภูหินร่องกล้า และสถานีทุ่งแสลงหลวง และ จ.เพชรบูรณ์ มีสถานีดับไฟป่าน้ำหนาว สถานีดับไฟป่าเขาค้อ และสถานีควบคุมไฟป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ โดยทั้ง 8 สถานีมีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและลาดตระเวนเฉพาะพื้นที่ป่าอนุรักษ์ประจำ
นายวิโรจน์เผยอีกว่า การที่จะทราบว่าพื้นที่ใดมีไฟป่าจาก Hotspot ซึ่งกรมป่าไม้จะแจ้งให้ทราบ จากนั้นเราก็จะส่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 8 สถานีไปดำเนินการดับไฟป่า หากรุนแรงก็จะประสาน อบต.ขอรถน้ำ และเครือข่ายดับไฟป่าจำนวน 730 กว่าคน ถ้าถึงขั้นวิกฤตก็จะประสานกับทางกองทัพอากาศ หรือเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงมาช่วยดับไฟ
ช่วงเดือนมีนาคมพบ Hotspot จำนวน 10 ครั้งเท่านั้น ส่วนหน้าที่ของสาวเสือไฟนั้น หลักๆ คือ ต้องลงพื้นที่ชี้แจงแก่ประชาชนในพื้นที่สุ่มเสี่ยงเกิดไฟป่าบ่อยครั้ง บอกไม่ได้ จะไปพื้นที่ใด จะต้องทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบทั้ง 3 จังหวัด แต่ไม่ถึงขั้นเสี่ยงทำหน้าที่ดับไฟป่าเอง เนื่องจากมีทีมงานเสือไฟและเครือข่ายชาวบ้านร่วมดับไฟป่าอยู่แล้ว