กาญจนบุรี - จับได้แล้วช้างอาละวาดที่ชายแดน อ.สังขละบุรี ที่แท้เป็นช้างประจำกองบัญชาการพรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) ใช้ในภารกิจขนเสบียงกลางป่า เหตุหลงเข้าไทยเพราะตกมัน พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายศิรัณ บุญสังข์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายป้องกัน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีช้างตัวขนาดใหญ่ไม่ทราบมาจากไหน หลงเข้ามาในเขตพื้นชายป่าบ้านใหม่พัฒนา หมู่ 7 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ซึ่งจุดดังกล่าวนั้นชาวบ้านในพื้นที่ได้นำช้างไปผูกล่ามโซ่เอาไว้ และช้างที่หลงเข้ามาได้ทำร้ายร้ายช้างของชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกัน เจ้าของช้างได้ไปพบพอดี จึงได้พยายามใช้หนังสติ๊กยิงช้างตัวดังกล่าวให้หนีออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จ และมาถูกช้างไล่เหยียบจนได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก ส่วนบริเวณหน้าท้องถูกงาแทงแฉลบเป็นบาดแผล ซึ่งเจ้าของช้างคือ นายชาติชาย เสตะพันธ์ ได้พยายามใช้อาวุธมีดแทงใส่ช้างเพื่อป้องกันตนเอง ในที่สุดช้างตัวดังกล่าวก็ได้เดินหลบหนีไป ซึ่งโชคดีที่นายชาติชาย ไม่เสียชีวิต
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และชาวบ้านได้ออกลาดตระเวนไปตามชายป่ารวมทั้งบนเขา เพื่อติดตามหาแต่ก็ไม่พบ พบเพียงร้องรอยเท้าช้าง และพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านถูกทำลาย และกินเป็นอาหาร ซึ่งขณะนั้นชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ตื่นกลัว และไม่กล้าที่จะออกไปกรีดยางพารา หรือแม้กระทั่งไปทำงานในไร่
โดยล่าสุด ช่วงบ่ายของวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านชุแหละ และบ้านห้วยมาลัย ว่า ขณะเดินทางไปไร่เพื่อกรีดยางพารา ที่อยู่แนวเขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ปรากฏว่า พบช้างตัวดังกล่าวนั้นหลบเข้าไปอาศัยหากินอยู่ภายในสวนยางพารา ใกล้กับแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาภูเขา และช้างได้เหยียบทำลายอุปกรณ์ทางการเกษตร และกล้วยที่ชาวบ้านปลูกไว้ได้รับความเสียหาย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่มาทราบภายหลังว่า ช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างที่ใช้ในภารกิจขนเสบียงของกองบัญชาการรัฐมอญใหม่ ที่ได้หายออกจากกองบัญชาการรัฐมอญใหม่มานานกว่า 1 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐมอญใหม่ก็ได้ออกติดตามหามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบข่าวว่า ช้างที่หายไปหลงเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และทำร้ายช้าง และเจ้าของได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยยังได้รับการประสานจาก นายเอมอญ อายุ 63 ปี ตัวแทนพรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) ขออนุญาตนำควาญประจำช้างเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้อนุญาตตามขั้นตอนของกฎหมาย
และเมื่อชาวบ้านไปพบช้างในสวนยางพารา ควาญช้างที่ได้รับอนุญาตก็ไปนำช้างตัวดังกล่าวออกมาทันที ซึ่งครั้งแรกทุกคนเข้าใจว่าเป็นช้างป่า หรือช้างเลี้ยงที่พลัดหลงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่จากการสังเกตพฤติกรรมของช้าง พบว่า มีนิสัยที่เชื่อง ไม่ดุร้าย จึงมั่นใจได้ว่าเป็นช้างเลี้ยง และสุดท้ายก็ได้รับการติดต่อจากตัวแทนพรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) ว่า ช้างตัวดังกล่าวเป็น 1 ใน 3 เชือกที่ใช้สำหรับภารกิจขนเสบียง ส่วนการนำช้างกลับไปยังกองบัญชาการฯคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 10 วัน เพราะควาญช้างต้องนำช้างเดินลัดเลาะไปตามชายป่ารกทึบที่เป็นหุบเขาสูงชันไกลประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้นำช้างกลับไปก็ได้ทำการตรวจสอบเอกสารตั๋วรูปพรรณของช้างที่ควาญช้างนำมาแสดงอย่างละเอียด
นายศิรัณ บุญสังข์ เปิดเผยว่า นายเอมอญ ตัวแทนพรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูค่ารักษาพยาบาลนายชาติชาย เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เป็นพืชผลทางการเกษตรรวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ทางการเกษตรที่ถูกช้างทำลายทั้งหมด
ด้าน นายทูน ควาญช้างตัวดังกล่าวเปิดเผยว่า ช้างตัวดังกล่าวมีชื่อว่า พลายปายมอญ อายุ 18 ปี เป็นช้างที่มีนิสัยไม่ดุร้าย และที่ผ่านมา ไม่เคยทำร้ายใคร แต่พลายปายมอญ เป็นช้างที่ขี้หวาดระแวง จะตกใจทุกครั้งเมื่อมีใครเดินเข้าทางด้านหลัง เชื่อว่าวันที่พลายปายมอญ ทำร้ายนายชาติชาย นั้น นายชาติชาย น่าจะเดินเข้าไปหาเพื่อไล่ช้างทางด้านหลัง ทำให้ช้างตกใจจึงหันหน้ากลับไปทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ส่วนสาเหตุที่พลายปายมอญ หายตัวออกไปจากกองบัญชาการพรรครัฐมอญใหม่ เนื่องจากช้างเกิดตกมัน เดินหนีเตลิดเข้าป่า สุดท้ายหลงข้ามแดนเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งจะสังเกตได้ว่าที่บริเวณหน้า และใบหูทั้งสองข้างมีคราบน้ำมันติดอยู่