บุรีรัมย์ - ชาวตำบลสะเดา อ.นางรอง บุรีรัมย์ ผวาพิษสุนัขบ้า หลังควายเพศเมียอายุกว่า 10 ปีถูกสุนัขกัดเกิดอาการคลุ้มคลั่งหงุดหงิดดุร้าย และส่งเสียงเห่าหอนคล้ายสุนัขก่อนล้มตาย แจ้งปศุสัตว์ตรวจสอบพบต้องสงสัยติดเชื้อพิษสุนัขบ้าให้ฝังทำลายซาก พร้อมเตรียมปูพรมฉีดวัคซีนสุนัข-แมวรอบรัศมี 1 กม.ป้องกันการระบาด
วันนี้ (18 มี.ค.) ชาวบ้านในตำบลสะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ต่างหวาดผวาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากมีควายเพศเมียอายุกว่า 10 ปี ของชาวบ้านโคกหลุมเงิน ม.7 ต.สะเดา ซึ่งถูกสุนัขกัดเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งหงุดหงิดไล่ขวิดเจ้าของและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ทั้งส่งเสียงร้องโหยหวนคล้ายกับเสียงเห่าหอนของสุนัข จึงเชื่อว่าควายตัวดังกล่าวติดเชื้อพิษสุนัขบ้าอย่างแน่นอน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์มาตรวจสอบ พบว่าควายตัวดังกล่าวมีอาการในลักษณะดังกล่าวติดต่อกัน 4 วันก่อนล้มตายลง จึงสงสัยว่าน่าจะติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
เบื้องต้นจึงได้ให้เจ้าของนำซากควายตัวดังกล่าวฝังกลบแล้วโดยใช้รถแบ็กโฮขุดฝังและโรยทับด้วยปูนขาวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคด้วย ถึงแม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าควายตัวดังกล่าวติดเชื้อพิษสุนัขบ้า หรือป่วยตายด้วยสาเหตุอะไร ส่วนสุนัขตัวที่กัดควายทราบว่าก่อนหน้านี้ได้ไล่กัดเป็ด ไก่ตายแล้วหลายตัว จึงได้ฆ่าทำลายซากไปแล้วโดยไม่ได้ส่งซากสุนัขไปตรวจ
นายสมบัติ ประสิทธิกุล เจ้าของควาย บอกว่า มีควายทั้งหมด 12 ตัว ตัวที่ตายเป็นเพศเมียอายุประมาณ 10 ปีแล้ว โดยเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาได้มีสุนัขมาไล่กัดเป็ด ไก่ตาย แล้วมากัดขาควายของตน แต่ไม่ได้สนใจคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ต่อมาได้ข่าวว่ามีชาวบ้านฆ่าสุนัขตัวที่มาไล่กัดตายแล้วเพราะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมาสังเกตว่าควายมีอาการผิดปกติ ส่งเสียงร้องทั้งคืน ไม่กินหญ้า เวลาเข้าใกล้จะแสดงอาการหงุดหงิดจะไล่ชน
จึงแจ้งปศุสัตว์มาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ให้เฝ้าดูอาการ หลังจากนั้นควายเริ่มส่งเสียงร้องคล้ายเสียงเห่าหอนเหมือนสุนัข และดุร้าย เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน พอวันที่ 4 ล้มตายลง จากนั้นตนจึงจ้างรถแบ็กโฮฝังกลบในราคา 4,000 บาท และโรยปูนขาวตามคำแนะนำของปศุสัตว์ ส่วนตัวเองและพ่อตา ซึ่งสัมผัสกับควายตัวดังกล่าวได้ไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย โดยหมอนัดให้ไปฉีดให้ครบ 4 ครั้ง
ด้าน นายอัมพล พัวพัฒนกุล ปศุสัตว์อำเภอนางรอง พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมแนะนำชาวบ้านห้ามนำเนื้อวัว ควายที่ป่วยตายผิดปกติไปบริโภคอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย ส่วนกรณีควายที่ถูกสุนัขกัดแล้วล้มตายนั้น ถึงแม้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่เพราะอาการที่แสดงออกคล้ายหลายโรค คือ โรคพิษสุนัขบ้า โรคเฮโมรายิก (คอบวม) โรคไข้หลังแข็ง ต้องดำเนินการควบคุมเฝ้าระวัง โดยจะทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัขและแมวในรัศมี 1 กิโลเมตรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ