ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โคราชเร่งขับเคลื่อนนโยบายด้านเกษตรผ่าน COO ระดับจังหวัด ประเดิมแก้ปัญหาอ้อย หลังเกษตรกร 132 ราย ร้องช่วยเหลือหวั่นตัดอ้อยส่ง รง.ไม่ทันฤดูกาลเปิดหีบ เผยประสานสมาคมฯ และรง.น้ำตาล ยันไม่ต้องกังวล ลั่นเก็บตกอ้อยทุกลำเข้าโรงงานทันก่อนปิดหีบแน่
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง นครราชสีมา นายวิบูลย์ ไชยวรรณ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรระดับจังหวัด (Chief Of Operation- หรือ COO) ครั้งที่ 1/2561 โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานเกษตรทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในด้านการเกษตร โดยมุ่งที่เกษตรกรเป็นจุดศูนย์กลาง โดยที่ประชุมได้มีการหารือประเด็นสำคัญ เช่น โครงการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่, ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก), การบริหารจัดการพื้นที่เกษตร (Zoning) , ธนาคารสินค้าเกษตร, โครงการ 5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฏีใหม่ถวายในหลวง, การผลิตข้าวครบวงจร , การพัฒนาเกษตรกรเป็น Smart Famer เป็นต้น
นายวิบูลย์ ไชยวรรณ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การประชุมนัดแรกของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรระดับจังหวัดครั้งนี้ ได้มีการติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญด้านการเกษตรของรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยที่ยื่นเรื่องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือในการขยายเวลาในการเปิดหีบอ้อยของโรงงานออกไป อีกเนื่องจากมีเกษตรกรส่งอ้อยให้กับโรงงานไม่ทันเวลา
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มนี้ ในกรณีที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเป็นห่วงเรื่องราคา และระยะเวลาในการส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานที่เกรงว่าจะไม่ทันเวลาในการส่งอ้อยเข้าสู่โรงงาน เนื่องจากปีนี้มีการปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลผลิตอ้อยที่ออกสู่ตลาดสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมากว่าร้อยละ 30 ประกอบการกับเก็บเกี่ยวล่าช้า จากภาวะอากาศร้อน การขนส่ง และการขาดแคลนแรงงานในการตัดอ้อยนั้น ขอยืนยันว่า เกษตรกรไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลในประเด็นดังกล่าวทางคณะกรรมการฯ ได้มีการหารือกับทางสมาคมฯ และเจ้าของโรงงานผลิตน้ำตาล ทั้ง 3 แห่ง ในจังหวัดนครราชสีมาเรียบร้อยแล้ว
ทุกฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เกษตรกรไม่ต้องกังวลว่าอ้อยที่เหลืออยู่จะเก็บเกี่ยวไม่ทันหรือโรงงานจะปิดหีบอ้อยก่อน ซึ่งก่อนจะปิดหีบอ้อยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการฯอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการสำรวจหรือเก็บข้อมูลครั้งสุดท้าย หรือเรียกว่าเป็นการเก็บตกเกษตรกรในวันที่ 3 เม.ย.ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายที่จะรวบรวมข้อมูลในการแก้ไขปัญหา โดยโรงงานจะปิดหีบอ้อยตามฤดูกาลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.เป็นต้นไป ในบางโรงงาน
โดยการประชุมครั้งนี้จะรวบรวมข้อมูลอ้อยที่เหลืออยู่ และหารือกับโรงงานว่าโรงงานใดสามารถเปิดรับอ้อยของเกษตรกรได้ จากนั้นจะให้เกษตรกรนำอ้อยไปส่งให้โรงงานดังกล่าวเพื่อเก็บตกอ้อยทุกลำของจังหวัดนครราชสีมา
นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่า เกษตรกรในจังหวัดนครราชสีมาที่ประสบปัญหาดังกล่าวมีทั้งหมด 132 ราย แบ่งเป็นเกษตรกร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นคู่สัญญาของโรงงาน ประมาณ 77 ราย ซึ่งทางโรงงานยืนยันว่าจะรับซื้อทุกราย ส่วนที่เหลืออีก 55 ราย เป็นเกษตรกรอิสระไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับทางโรงงาน แต่ทางโรงงานยินดีที่จะรับซื้ออ้อยของเกษตรกรกลุ่มนี้ แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการจัดลำดับคิวในการรับซื้อ โดยให้ส่งอ้อยเข้าโรงงานวันละ 100 ตัน ซึ่งให้ไปจัดคิวกันเอง ฉะนั้นในฤดูกาลผลิตอ้อยปีนี้คาดว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน