ระยอง - เจ้าของร้าน “ออเร้นท์สตาร์” แหลมแม่พิมพ์ เข้าแจ้งความ ตร.สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง หลังถูกชายฉกรรจ์อ้างตนเป็นสารวัตร อ. พกปืนเข้ามาในร้าน ก่อนนำพวกทำลายทรัพย์สินเสียหาย
วันนี้ ( 15 มี.ค.) น.ส.ปูชิกา ศรีโนรัตน์ อายุ 23 ปี เจ้าของร้านอาหาร ออเร้นท์สตาร์ ซึ่งตั้งอยู่ริมหาดแหลมแม่พิมพ์ พร้อมด้วย น.ส.ธัญญามล ศรีมลรัตน์ ผู้ดูแลร้าน ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สายัณห์ ปัญจรักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ว่าเมื่อเวลา 20.00น.วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รวม 5 คน ได้นำอาวุธปืนเข้ามาในร้าน พร้อมอ้างตนเป็นสารวัตรชื่อ อ. เข้ามาตามหาชาวต่างชาติที่ชื่อ มิกเกล แต่เมื่อไม่พบได้เสียงโวยวายและทำลายทรัพย์สินภายในร้านจนได้รับความเสียหาย สร้างความตกใจกลัวให้กับลูกค้าที่นั่งอยู่ภายในร้าน
น.ส.ปูชิกา เผยว่าสาเหตุที่เพิ่งเข้าแจ้งความเพราะเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งหลังทราบเรื่องได้รวบรวมหลักฐานพร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานที่อยู่ในคืนเกิด เข้าแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าตนเองคือ สารวัตร อ.
ขณะที่ น.ส.ธัญญามล ผู้ดูแลร้านกล่าวว่าคืนเกิดเหตุตนเองและพนักงานภายในร้าน ได้ยินเสียงดังเอะอะจึงออกมาดูซึ่งก็พบกลุ่มชายฉกรรจ์ตะโกนถามหาฝรั่งชื่อ มิกเกล เมื่อตอบไปว่าไม่อยู่ 1 ในชายฉกรรจ์ที่อ้างตนเป็นสารวัตร อ. และถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ได้สั่งให้ปิดร้านจนทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการต้องรีบออกจากร้านเพราะเกรงว่าจะถูกลูกหลง จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ลงมือทำลายทรัพย์สินภายในร้านจนได้รับความเสียหาย ก่อนจะออกจากร้านและพูดทิ้งท้ายอีกว่า หากไม่เจอตัวฝรั่ง ห้ามเปิดร้านขาย ไม่เช่นนั้นจะเจอดี
ด้านนายสุชาติ ศรีโนรัตน์ 1 ในผู้ดูแลร้านให้การว่า ชายที่อ้างตนเป็นสารวัตร อ. แท้จริงแล้วเป็นสารวัตรกำนันอยู่ในพื้นที่ ส่วนสาเหตุที่เข้ามาก่อความวุ่นวายภายในร้าน น่าจะมาจาก นายมิกเกล ซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้เป็นแฟนกับน้องสาวของตนเอง ได้ไปนั่งดื่มสุราที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และพูดจาส่งเสียงดังจนสร้างความไม่พอใจให้กับสารวัตร อ. และได้สั่งให้ นายมิกเกล ไหว้ขอโทษ ซึ่ง นายมิกเกล ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแล้วจึงคิดว่าเรื่องน่าจะจบ
“ แต่สารวัตร อ. กลับมาหาเรื่องอีก และอ้างว่า นายมิกเกล ไหว้ไม่สวย เหมือนไม่เต็มใจ จึงตามมาหาเรื่องอีก ”นายสุชาติ กล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน พร้อมได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งติดตามผู้ที่อยู่ในคืนเกิดเหตุมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป.
