ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เผยเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสถานที่สำคัญอย่างพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ พื้นที่รอบชุมชน และพื้นที่ท่องเที่ยว หวั่นเกิดไฟป่าใหญ่เหมือน 59 แม้ที่ผ่านมายังไม่เกิดไฟป่ารุนแรง แต่ห่วงเชื้อไฟสะสมจากเศษซากใบไม้กิ่งไม้ เสริมกำลังเสือไฟจากหลายจังหวัดมาช่วยแล้ว
นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย ปี 2561 ขณะนี้ยังมีสถานการณ์ที่ปกติและยังไม่เกิดไฟป่าขึ้นภายในพื้นที่ แต่จะมีสถานการณ์เรื่องของหมอกควันที่ปกคลุมเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากเป็นหมอกควันที่ลอยมาจากพื้นที่อื่น ส่งผลให้ค่าหมอกควันเกิดค่าสูงเกินมาตรฐาน
สำหรับการดูแลและป้องกันในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุยนั้นได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ทั้งของอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ของไฟป่าจากสถานีไฟป่าภูพิงค์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เสือไฟที่ได้รับการสนับสนุนกำลังมาจากจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดตาก ในการนำกำลังเข้ามาช่วยดูแล เนื่องจากว่าพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเพราะเป็นพื้นที่ตั้งของพระตําหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และวัดพระธาตุดอยสุเทพ โดยหากเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ต่างๆ ที่ไม่ค่อยดีกับเมืองเชียงใหม่
นอกจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องแล้วยังมีชุมชนทั้งหมด 32 หมู่บ้านรอบอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย มีการตั้งจุดตรวจ จุดเฝ้าระวัง และการออกลาดตระเวนร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งพบว่าได้รับความร่วมมือกับทางชุมชนเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีภาคเอกชนในการสนับสนุนอุปกรณ์ในการป้องกันดูแลไฟป่าหมอกควันในพื้นที่
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ในเรื่องของเชื้อไฟเนื่องจากว่า พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เป็นพื้นที่ที่มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดประกอบกับเนื่องจากการเกิดเหตุไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางเจ้าหน้าที่มีบทเรียนในการเฝ้าระวังพื้นที่ โดยหลังจากนั้นมาก็ไม่มีเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตามปริมาณเชื้อเพลิงก็ยังคงมีการสะสมมากขึ้น
ทั้งนี้ ทางอุทยานฯ มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่าเป็นพิเศษ ประกอบกับพื้นที่โดยรอบพระตําหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ก็มีการจัดเจ้าหน้าที่ในรัศมี 1 กิโลเมตร และรัศมี 5 กิโลเมตร เพื่อให้การดูแลมีความครอบคลุมทั่วถึง