ศูนย์ข่าวภูมิภาค - ช่วงนี้คลื่นลมแรง ทำให้จังหวัดชายทะเลหลายแห่ง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมีขยะเกลื่อนหาดจำนวนมาก ล่าสุด หาดหาดแม่รำพึง ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ชมรมรักษ์ทะเลบ้านเพ ต้องเร่งระดมกำลังจัดเก็บ
วิกฤตขยะยังคงเป็นปัญหาที่รอการแก้ไขอย่างจริงจัง ปัจจุบัน ประเทศไทยมีขยะในทะเลมากที่สุด ซึ่งอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก โดยสถานการณ์ปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศไทยขณะนี้มีกว่า 27 ล้านตัน มีขยะประมาณ 10 ล้านตัน ที่ตกค้างสะสมอยู่ในสถานที่กำจัดขยะ หรือไหลลงสู่แหล่งน้ำ และลงสู่ทะเลไทย
ถึงแม้ว่าปัจจุบันมีหลายหน่วยงานให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย รวมถึงพื้นที่ชายฝั่ง และหมู่เกาะต่างๆ แต่ก็ยังมีขยะเกลื่อนชายหาดในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ตั้งแต่ชายหาดบางแสน ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากเกิดขึ้นทุกปี ปีละหลายๆ ครั้ง มีการศึกษาเพื่อป้องกันแก้ไขกันมาหลายครั้งมาก
สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า ปัญหาขยะที่หาดบางแสน ส่วนมากมาจากแม่น้ำบางปะกงที่ไหลพัดพาขยะมาด้วย เนื่องจากบริเวณหาดบางแสน เป็นแอ่งกระทะ จึงทำให้มีขยะมาก นอกจากนั้น ปัญหาขยะเกลื่อนกลาดยังมาจากนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน ส่วนขยะที่มาจากผู้ประกอบการ เหล่าพ่อค้าแม่ค้านั้นไม่ค่อยมี เพราะทางเทศกิจมีมาตรการในการจัดการอย่างเข็มงวด นอกจากนี้ ยังพบว่าหาดบางแสน มีขยะเยอะมากในช่วงเดือนเมษายน ช่วงฤดูฝน หรือพายุเข้า หรือฤดูกาลหน้าคลื่น
ระยอง เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นชายทะเลที่ประสบปัญหาขยะเกลื่อนชายหาดส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ลมมรสุมพัดขยะจากกลางทะเลเข้าหาดแม่รำพึง ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเกิดขึ้นช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ยาวตลอดแนวชายหาดกว่า 12 กิโลเมตร
ชมรมรักษ์ทะเล ต้องระดมกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ผู้ประกอบการร้านค้าชายหาด เตียงผ้าใบ พ่อค้าแม่ค้ารถเร่ขายของริมถนน และจิตอาสา จำนวน 150 คน ช่วยกันเก็บกวาดขยะ รวมทั้งทำความสะอาดชายหาดแม่รำพึง ให้กลับคืนสู่สภาพปกติ
ส่วนที่ชายหาดชะอำ เพชรบุรี ก็เช่นกัน พบขยะทะเลจำนวนมากถูกน้ำซัดมาเกยหาดชะอำ ยาวกว่า 5 กิโลเมตร หลังจากมีคลื่นลมแรงพัดขยะจำนวนมากเกยชายหาดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนหน้าที่จะมาถึงชะอำเพียง 1 วัน จากการตรวจสอบพบว่า ขยะส่วนใหญ่เป็นเศษวัชพืช เศษซากกิ่งไม้ คาดว่าขยะทั้งหมดถูกพัดมาจากทะเลบริเวณจังหวัดในภาคตะวันออก นอกจากนี้ ยังพบโลมาหัวบาตรหลังเรียบ อายุประมาณ 1 ปีเศษ ถูกคลื่นซัดเข้ามาตายเกยชายหาด จากการตรวจสอบพบตามลำตัวมีบาดแผล และที่หางพบเชือกพันติดกับขยะทะเล
สำหรับหาดเจ้าหลาว จ. จันทบุรี ล่าสุด ที่บริเวณอู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงาม ต.หนองบัว อ.เมืองจันทบุรี พบขยะทั้งเศษไม้ หลอดไฟ ขวดพลาสติกถูกคลื่นซัดเกลื่อนชายหาดเป็นระยะทางยาวกว่า 300-400 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวที่พาบุตรหลานมาท่องเที่ยวนั่งรับประทานอาหาร และลงเล่นน้ำในช่วงปิดภาคเรียน ต้องคอยระวังไม่ให้เดินเหยียบเศษแก้ว หรือเศษไม้ ขณะที่บางคนพากันยืนถ่ายรูปขยะที่ดูแล้วไม่สวยงาม รวมทั้งเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีติดไปด้วย เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี
ขณะที่ นายณัฐกาญจน์ มาเมือง นักท่องเที่ยวที่นั่งรับประทานอาหารริมชายหาด PMY กล่าวว่า พาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อน มองเห็นขยะลอยติดริมชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตา ทำให้ชายหาดสกปรก และไม่กล้าลงเล่นน้ำ มีแต่สิ่งปฏิกูลที่ลอยมากับน้ำทะเลซัดมาติดชายหาด ยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาเก็บ หรือนำไปกำจัด ปล่อยให้เน่าจนมีแมลงวันบินมาตอม แถมส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วชายหาด และยังมีขยะที่เป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยว เช่น เศษขวดแก้ว หรือแม้แต่หลอดไฟนีออนที่ลอยมาติดริมชายหาด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือแก้ไข ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะหนีหายไปมากกว่านี้
ปัญหาขยะทะเล เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว และทุกพื้นที่ก็ว่าได้ หากทุกคนยังไม่ตระหนักถึงปัญหา ยังคงตักตวงแต่ความสุข และผลประโยชน์เฉพาะหน้า โดยไม่ไยดีต่อสภาพแวดล้อม อีกไม่นานความเสื่อมโทรมของท้องทะเลไทยจะเป็นปัญหาใหญ่ที่เกินเยียวยาอย่างแน่นอน