นครปฐม - นายอำเภอบางเลน เรียกประชุมถกปัญหาน้ำเสียโรงงานคัดแยกไข่ไก่ ไข่เป็ด ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง ปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ส่งกลิ่นรบกวน สุดท้ายชาวบ้านลงมติให้ย้ายโรงงานออกจากพื้นที่ หลังทนปัญหายาวนาน
วันนี้ (14 มี.ค.) นายยุทธนา โพธิ์วิหค นายอำเภอบางเลน เผยว่า จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีน้ำเน่าเสียในคลองสาธารณะ ในเขตอำเภอบางเลน เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา จึงได้เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา โดยชาวบ้านแจ้งว่า โรงงานคัดแยกไข่ไก่ ไข่เป็ดใหญ่ที่สุดในภาคกลางมีการปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ที่เชื่อมกับแม่น้ำท่าจีน ทำให้เกิดเน่าเสีย ทำให้ปลาน้อยใหญ่ตายลอยเหนือน้ำจำนวนมากตลอดทั้งลำคลอง
อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วบริเวณ และทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบรวม 4 ตำบล คือ ตำบลบางเลน ดอนตูม บางไทรป่า และบางปลา รวมทั้งยังมีผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอบางเลน คือ ตลาดทุ่งบัวแดง ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาชมกันจำนวนมาก แต่ต้องได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเน่าเสีย และกลิ่นเหม็นจากโรงงานแห่งนี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ต้นเหตุที่ทำให้น้ำเน่าเสียจากมูลสัตว์ (ขี้ไก่) ของบริษัท เคซีเอฟ พลังงานสีเขียว จำกัด ที่ทำธุรกิจด้าน ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ เป็ดไข่ และโรงงานคัดแยกไข่ไก่และไข่เป็ด รวม 3 แห่ง ในพื้นที่อำเภอบางเลน และอำเภอดอนตูม ที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง โดยได้มอบหมายให้ นายโกญจนาท ศรมยุรา ผู้บริหารสูงสุดด้านบัญชีและการเงิน (CFO) มาประชุมหารือกับชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลบางไทรป่า อำเภอบางเลน เพื่อเจรจาขอพื้นที่เปิดบ่อกักเก็บน้ำเสียจากมูลสัตว์ภายในโรงงาน มาไว้ในพื้นที่หมู่ 1 ชั่วคราว โดยมีทหารชุดปฏิบัติการในพื้นที่อำเภอบางเลน ดอนตูม และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจำนวนกว่า 80 คน เข้าร่วมประชุม และรับฟังการแก้ปัญหาของโรงงาน
ด้าน นายโกญจนาท ได้ชี้แจงว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทางบริษัทต้องขอโทษชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเน่าเสียจากมูลสัตว์ได้ทะลักล้นออกจากบ่อกักเก็บลงสู่คลองสาธารณประโยชน์ จนทำให้น้ำในคลองเน่าเสีย มีปลาตายจำนวนมาก รวมทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้าน ดังนั้น ในวันนี้ตนจึงมาเจรจากับชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลบางไทรป่า เพื่อจะขอพื้นที่จัดทำบ่อกักเก็บน้ำเสียจากมูลสัตว์ ที่บ่อกักเก็บโรงงานมาไว้ที่หมู่ 1 เป็นการชั่วคราว เพื่อจะได้เตรียมปรับปรุงบ่อกักเก็บที่โรงงานใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือดังกล่าว ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างคัดค้าน และไม่ยอมให้นำสิ่งเน่าเหม็นเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด พร้อมยังขอร้องให้ทางบริษัทควรจะย้ายโรงงานไปอยู่ที่อื่น เพราะที่ผ่านมา หลายปีชาวบ้านต่างได้รับผลกระทบมาโดยตลอด รวมทั้งพืชผลผลิต และนาข้าวก็ได้รับผลกระทบมาแล้ว
ด้าน นายยุทธนา โพธิ์วิหค นายอำเภอบางเลน กล่าวว่า สำหรับผลสรุปในเรื่องนี้ คือ เมื่อชาวบ้านไม่ยินยอมให้ทางบริษัทนำของเสียจากมูลสัตว์เข้ามาในพื้นที่ ก็คงต้องเป็นมติเอกฉันท์ ในฐานะตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ คงต้องฟังชาวบ้าน ดังนั้น ทางบริษัทก็ต้องกลับไปหาทางแก้ไขเพื่อให้ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านให้ได้ต่อไป เพื่อที่จะให้มีการอยู่ร่วมกันได้ระหว่างโรงงานและชาวบ้าน ซึ่งจะมีการติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเร่งด่วนต่อไป