ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แม่ทัพภาคที่ 3 นำแถลงผลงานกองกำลังผาเมืองลาดตระเวนสกัดกั้นคาราวานลำเลียงยาเสพติดชายแดนด้านอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยึดของกลางยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 2.8 ล้านเม็ด มูลค่าต้นทาง 60 ล้านบาท สัญลักษณ์ใหม่ “อินทรีเหยียบแอปเปิล” พบเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปีในช่องทางนี้ เนื่องจากช่วงหลังขบวนการหันไปใช้ช่องทางอื่น เผยยังมียาบ้าจ่อทะลักชายแดนอีกกว่า 30 ล้านเม็ด เหตุชนกลุ่มน้อยเร่งระบายสินค้าหาเงินซื้ออาวุธต่อสู้รัฐบาลพม่า
วันนี้ (10 มี.ค.) พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง รวมทั้งผู้แทนจากตำรวจภูธรภาค 5, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวที่กองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดรกวดขันทำให้ขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่จะเลี่ยงไปใช้เส้นทางแนวชายแดนตอนบน เช่น แม่อาย, ฝาง ของจังหวัดเชียงใหม่ หรือทางชายแดนฝั่งจังหวัดเชียงราย
การจับกุมมีขึ้นหลังกองร้อยทหารม้าที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีขบวนการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ช่องทางหนองกะลาง บ้านอรุโณทัย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดพักยาห่างจากชายแดนประมาณ 1.5 กม. ห่างจากบ้านอรุโณทัยประมาณ 2 กม. จึงจัดชุดลาดตระเวนเข้าตรวจสอบ
กระทั่งเช้าวานนี้ (9 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตรวจพบชายต้องสงสัย 2 คน จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งเป้และวิ่งหลบหนีไปได้จำนวน 1 คน ติดตามจับกุมได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายหลาว บุญไต บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 9/ช บ้านห้วยเป้า หมู่ 1 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว
ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบเป้บรรจุยาบ้า จำนวน 4 เป้ แต่เมื่อขยายผลตรวจพื้นที่โดยรอบพบเป้เพิ่มอีก 15 เป้ รวมทั้งสิ้น 19 เป้ รวมยาบ้าทั้งหมด 2,840,000 เม็ด มีสัญลักษณ์ 3 แบบ คือ อินทรีเหยียบรูปแอปเปิล จำนวน 2,150,000 เม็ด, 999 จำนวน 500,000 เม็ด และ Y1 จำนวน 190,000 เม็ด ตัวเม็ดยาประทับตราอักษร WY
ทั้งนี้ คาดว่าชายทั้งสองเป็นคนดูต้นทาง ส่วนขบวนการลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้น่าจะมีประมาณ 20 คน จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมทั้งของกลางดำเนินการต่อไป
แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ในช่วงนี้สามารถสกัดกั้นตรวจยึดยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้าที่ลักลอบลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทยได้เป็นจำนวนมากนั้น เนื่องมาจากประเทศพม่าได้กวาดล้างชนกลุ่มน้อยที่ยังไม่ยอมวางอาวุธ ทำให้ชนกลุ่มน้อยดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติดต้องเร่งส่งยาเสพติดที่ผลิตไว้ออกขายเพื่อระดมเงินนำไปจัดหาอาวุธเพื่อใช้ในการสู้กับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการประสานจากทางประเทศพม่าให้ช่วยเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังอยู่แล้วทั้งในเรื่องยาเสพติด และอาวุธ
สำหรับยาบ้าที่สามารถตรวจยึดได้ในครั้งนี้กว่า 2.8 ล้านเม็ดนั้น เบื้องต้นที่ชายแดนมีมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวหากเข้าไปถึงพื้นที่ชั้นในของประเทศ นอกจากนี้มีข้อมูลด้วยว่ายังมียาบ้าที่นำมาพักรอที่จะทะลักเข้ามาตามแนวชายแดนอีกกว่า 30 ล้านเม็ด
ส่วนตราสัญลักษณ์ที่พบมีการติดอยู่ที่ของกลางที่ตรวจยึดในครั้งนี้ 3 สัญลักษณ์นั้นแตกต่างจากปกติที่มักจะพบเพียงสัญลักษณ์เดียว โดยสัญลักษณ์อินทรีเหยียบรูปแอปเปิลเพิ่งพบใหม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าทั้ง 3 สัญลักษณ์มีความแตกต่างกันอย่างไร และเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่
ขณะที่ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 60-กุมภาพันธ์ 61) เจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุมยาบ้าได้ทั้งสิ้น 5,788,128 เม็ด จากยอดจับกุมทั้งหมดจำนวน 8,732,100 เม็ด ถ้ารวมครั้งนี้ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้จำนวน 8,628,128 เม็ด จากยอดการจับกุมทั้งหมด 11,572,100 เม็ด
