ศูนย์ข่าวศรีราชา - เทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประกาศยุบชุมชนศรีราชานคร - ซอยไปรษณีย์ ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ใจกลางเมืองศรีราชา เหตุบ้านเรือนทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ของเอกชน ที่มีนิติบุคคล จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ ประธานชุมชนเตรียมร้องศูนย์ดำรงธรรมและศาลปกครอง
วันนี้ ( 8 มี.ค. ) นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายปรีชา เรืองอร่าม ,นายชรัช สุวรรณ์, นายจิร จักกะพาก รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ได้แถลงข่าวการประกาศยุบชุมชนศรีราชานคร - ซอยไปรษณีย์ ออกจากการเป็นชุมชนของเทศบาลฯ เนื่องจากชุมชนแห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเอกชน ที่ยังไม่ยกเป็นพื้นที่สาธารณะให้กับเทศบาลเมืองศรีราชา จึงทำให้เทศบาลเมืองศรีราชาไม่สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณลงมาในพื้นที่ชุมชนได้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการสมาชิกสภาเทศบาลฯ ผู้นำชุมชน เข้าร่วมฟังการประกาศในครั้งนี้
สำหรับชุมชนศรีราชานคร - ซอยไปรษณีย์ มีบ้านเรือนทั้งสิ้น 1,468 หลังคาเรือน มีจำนวนประชากรในทะเบียนราษฎร์ทั้งสิ้น 1,668 คน เป็นชายจำนวน 695 คน และเป็นหญิงจำนวน 973 คน
นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา เปิดเผยว่า เนื่องจากพื้นที่ชุมชนศรีราชานคร - ไปรษณีย์ ส่วนใหญ่อยู่ในโครงการศรีราชานคร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบและดูแลของเอกชน ที่ยังมิได้ส่งมอบพื้นที่ให้เทศบาลเมืองศรีราชาเป็นผู้ดูแล ทำให้เทศบาลฯ ไม่สามารถตั้งงบประมาณหรือนำโครงการต่าง ๆ เข้าไปพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและได้รับความเดือดร้อนได้ เทศบาลเมืองศรีราชาจึงยุบชุมชนศรีราชานคร -ซอยไปรษณีย์ ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป และเมื่อโครงการศรีราชานครได้ส่งมอบพื้นที่ให้เทศบาลเมืองศรีราชาเป็นผู้ดูแล เทศบาลฯจะพิจารณาจัดตั้งชุมชนใหม่อีกครั้ง รวมทั้งคณะกรรมการชุมชนต้องพ้นจากตำแหน่งในครั้งนี้ไปในทันที ซึ่งในอนาคตจะมีการดำเนินการเอาคืนพื้นที่ลำราง พื้นที่สาธารณะที่มีการบุกรุกคืนให้กับเทศบาลฯ ด้วย
ด้านนางศิริพร สมจิตต์ ประธานชุมชนศรีราชานคร - ซอยไปรษณีย์ ก็เปิดเผยว่า ขณะนี้เทศบาลเมืองศรีราชาได้ประกาศยุบชุมชนศรีราชานคร-ซอยไปรษณีย์ เป็นที่แน่นอนแล้ว ทางคณะกรรมการชุมชนก็จะนำเรื่องไปร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม และศาลปกครอง เพื่อเรียกร้องสิทธิของชุมชนให้กลับคืนมา ซึ่งการยุบชุมชนในครั้งนี้ทางประชาชนที่อยู่ในชุมชนก็จะเสียสิทธิที่จะได้รับจากทางภาครัฐ งบประมาณจากโครงการต่าง ๆ ทั้งไทยยั่งยืน กองทุนไฟฟ้า ก็จะต้องถูกตัดออกไปเป็นต้น