ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มคนขับรถเก๋งปาดไปมาขวางรถกู้ภัยเชียงใหม่ที่กำลังเร่งนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างไม่มีเจตนาแต่เกิดเหตุเพราะมึนงงจากการกินยาแก้แพ้เข้าไป เผยรู้สึกเสียใจและยอมรับผิดด้วยดี พร้อมเสียค่าปรับ 500 บาท และขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัย
จากกรณีที่วานนี้ (7 มี.ค. 61) โซเชียลมีเดียมีการแชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างแพร่หลายต่อคลิปวิดีโอที่โพสต์โดยทีมกู้ภัยของเทศบาลตำบลแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบรรยายข้อความว่า “ถ้าคนเจ็บในรถเป็นญาติคุณจะทำยังไงคับ ทำอย่านี้ ต้องการอะไรคับ #บังหน้ารถพยาบาลไม่พอ จะเบรกให้ชนอีก ทะเบียนชัดเจน” พร้อมคลิปภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่รถพยาบาลของทีมผู้ภัยเทศบาลตำบลแม่โจ้กำลังนำตัวผู้ป่วยอุบัติเหตุไปส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อมาถึงช่วงถนนสายเชียงใหม่-พร้าว ใกล้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เจอรถเก๋งสีขาวขับขวางทาง และยังมีการขับปาดซ้ายปาดขวาไปมา และบางช่วงยังพยายามเบรกรถเหมือนกับจะให้ชนท้าย และยังไม่ยอมเปิดทางให้รถพยาบาลทั้งๆ ที่มีการเปิดสัญญาณไฟขอทาง และสัญญาณไซเรน จนกระทั่งช่วงหนึ่งรถพยาบาลจึงจะสามารถแซงได้ จึงได้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์เตือนสติสำหรับผู้ที่ขับขี่ขอให้เปิดทางสำหรับรถฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นรถกู้ภัย รถพยาบาล หรือรถดับเพลิง ซึ่งอาจมีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เส้นทางเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น
ช่วงบ่ายวันนี้ (8 มี.ค. 61) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายปฏิภาณ นัยวรรณ อายุ 35 ปี ชาวอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กง 5315 เชียงใหม่ ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่ได้รับการเชิญตัวเข้าให้ปากคำ และไกล่เกลี่ยพูดคุยทำความเข้าใจกับทางเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยของเทศบาลตำบลแม่โจ้เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นนายปฏิภาณยอมรับว่าขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวจริง แต่อ้างว่าขณะเกิดเหตุดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะขับรถปาดไปมาเพื่อกีดขวางรถกู้ภัย และไม่ได้มึนเมาสุรา แต่มีอาการมึนงงจากการรับประทานยาแก้แพ้และยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งได้ขอโทษเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยเทศบาลตำบลแม่โจ้ พร้อมทั้งชำระค่าปรับจำนวน 500 บาท ฐานความผิดขับรถกีดขวางไม่ให้ทางรถฉุกเฉิน
ทั้งนี้ นายปฏิภาณ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถเก็บขยะของเทศบาลแห่งหนึ่งในอำเภอสันทราย เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดเหตุดังกล่าวกำลังขับรถกลับบ้านที่ตำบลเจดีย์แม่ครัว อำเภอสันทราย โดยก่อนหน้านั้นมีอาการป่วยจึงได้กินยาแก้แพ้และยาคลายกล้ามเนื้อเข้าไปทำให้มีอาการมึนงง ซึ่งไม่รู้ตัวและไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเลย จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าวันนี้เพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกเสียใจมาก จากนั้นได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับผิดโดยดีและเสียค่าปรับ พร้อมทั้งขอโทษเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยของเทศบาลตำบลแม่โจ้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน นายกิตติธัช คำแก้ว ทีมกู้ภัยเทศบาลตำบลแม่โจ้ เปิดเผยว่า ขณะที่เกิดเหตุดังกล่าวกำลังนำคนเจ็บจากอุบัติเหตุที่ทางกู้ชีพกู้ภัยเข้าช่วยเหลือไปส่งโรงพยาบาล จนกระทั่งมาเจอรถคันดังกล่าวขับขวางเส้นทาง ปาดซ้ายขวา และเบรกหลายครั้งเป็นระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตร จะแซงก็ไม่กล้าที่จะแซงกลัวที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ประกอบกับกลัวว่าจะไปเกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นจึงพยายามบีบแตรให้สัญญาณ เตือนสติให้คนขับรถคันดังกล่าวได้หลีกทางให้หรือจอดนิ่งสนิทเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุแก่รถคันอื่นแต่ก็ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบจากปากคนขับเองว่าเกิดจากฤทธิ์ยาที่รับประทานเข้าไปก็ไม่ได้ติดใจเอาความใดๆ แต่อยากเตือนสติไว้ว่าหากสภาพร่างกายไม่พร้อมก็อย่าขับเนื่องจากอาจจะเกิดอุบัติเหตุแก่รถคันอื่นได้ ส่วนรถพยาบาล และรถกู้ภัยก็อยากให้ประชาชนให้ความสำคัญหากมีการเปิดสัญญาณเพื่อขอทางก็อยากให้เปิดเส้นทางให้เนื่องจากในรถอาจจะมีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือไปถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นคนในครอบครัวของตนเองก็ได้ อย่างน้อยก็ได้ช่วยให้คนเจ็บไปถึงมือแพทย์ได้เร็วที่สุด