เชียงใหม่ - เรื่องนี้ต้องขยาย..เถ้าแก่ร้านวัสดุก่อสร้างรายใหญ่สายเหนือเชียงใหม่ นำทีมหักกำไร
-ระดมทุนจากพ่อค้าแม่ขาย มอบทุนการศึกษาทั้งเณร - เด็กยากจนชาวเขา / พื้นราบ 3 อำเภอ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 บอกรู้รสความจนมาก่อน หวังให้เด็กด้อยโอกาสยกฐานะตัวเอง ช่วยคนอื่นต่อ
นายอุทัย สอนจีน ปลัดอาวุโสอำเภอไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ได้เป็นตัวแทนนายอำเภอไชยปราการ เดินทางไปเป็นประธาน ร่วมกับทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจภูธรไชยปราการ พ่อค้า แม่ค้า นายกเทศมนตรีในพื้นที่ มอบทุนการศึกษาจากกลุ่มก่อค้าวัสดุก่อสร้าง ให้เด็กยากจนทั้งที่เป็นสามเณร - เด็กชาวเขา และพื้นราบ เขต อ.ฝาง, ไชยปราการ, ไชยปราการ และ แม่อาย ทุนละ 2,000 บาท รวม 100 ราย ปีที่ 11 พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน - ข้าวสารอาหารแห้งให้โรงเรียนพื้นที่กันดาร เมื่อคืนที่ผ่านมา
สำหรับกิจกรรมการมอบทุนการศึกษาเด็กยากจนดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นมาจากนายเสถียร (ลุงมี) - นางมาลี โตเขียว เจ้าของ หจก.ชัยเสถียรโฮมเซ็นเตอร์ (ไชยปราการ) พ่อค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในพื้นที่ที่ก่อตั้งโครงการขึ้นมาตั้งแต่ 11 ปีก่อน เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจน ให้มีโอกาสเรียนเทียบเท่ากับเด็กคนอื่นๆ และสามารถพยุงตัวเองให้เรียนสูงเท่าที่จะเรียนได้ เพราะว่าการศึกษาสำคัญกว่าสิ่งไดในปัจจุบัน
นายเสถียร โตเขียว (ลุงมี) กล่าวว่า ในอดีตตนเป็นเด็กยากจน และมีพี่น้องด้วยกันหลายคน ไม่ได้เรียนหนังสือในระดับที่สูงเท่าไรนัก แม้อยากจะเรียนสูงๆ แต่ปัญหาคือ ไม่มีเงินทุนที่จะเรียน ต้องออกหาทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย ทำทุกอย่างที่คิดว่าได้เงินมาใช้ มาช่วยครอบครัว และได้ขยับตนเองเป็นช่างตัดกระจก - ทำพวกอะลูมิเนียม และงานเหล็ก งานเชื่อมต่างๆ
กระทั่งตนโตเป็นหนุ่ม ได้แต่งงานกับนางมาลี ก็ออกรับจ้างตัดกระจกหน้าต่าง ประตู และทำประตูมุ้งลวดต่างๆ โดยรับจ้างเป็นแรงงานให้กับนายทุน รับจ้างเป็นวันๆ ไป จนคิดว่า ถ้าเราหากระจกมาขายเอง และขายให้กับพรรคพวกในกลุ่มเดียวกันแบบไม่แพงน่าจะดีกว่า จึงตัดสินใจสั่งกระจกทุกชนิดจากกรุงเทพฯมาจำหน่ายด้วย และทำขายเอง ก็ได้กำไร ต่อมาจึงได้นำอุปกรณ์ก่อสร้างมาจำหน่ายเป็นร้านเล็กๆ จนขยายใหญ่โตในปัจจุบัน
แต่ว่าตนเรียนมาน้อย มีความรู้ทางวิทยฐานะน้อยมาก มีแต่ประสบการณ์ในการทำงาน และการค้าขาย อันเป็นพรแสวงที่ตนกับภรรยา คือ นางมาลี โตเขียว ได้อดทนมาจนประสบความสำเร็จได้ จึงอยากจะช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากจนให้ได้เรียนสูงๆ เพื่อจะได้มาช่วยครอบครัว ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือประเทศชาติได้ในอนาคต และเขาเหล่านั้นจะได้ยกระดับฐานะของคนจนมาเป็นคนที่ไม่จน และอาจช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
“การมอบทุนการศึกษานี้ ก็ทำมาเรื่อยๆ มีกลุ่มพ่อค้า - แม่ค้าด้วยกัน เข้ามาช่วยเหลือสมทบทุน เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนเหล่านี้ได้มากขึ้นทุกๆ ปี ต้องขอขอบคุณมาก ทำคนเดียวก็อาจจะช่วยได้ไม่มาก แต่มีเพื่อนๆพ่อค้าแม่ค้ามาช่วยก็ได้ช่วยเหลือเด็กได้มากขึ้น”
ขณะที่ นางมาลี โตเขียว กล่าวว่า ต้องขอบคุณลูกค้าที่มาช่วย เพราะทุกบาทที่มีคนมาซื้อ ก็จะหักส่วนกำไรมาสมทบทุนเด็กนักเรียนยากจน ซึ่งเสมือนว่าทุกคนที่มาซื้อของ ก็ได้ช่วยเด็กยากจนเหล่านี้ด้วย ก็ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมและเป็นการช่วยเหลือด้านทุนการศึกษาของเด็กยากจนให้นำไปใช้เกิดประโยชน์ในด้านการศึกษาของตนเองต่อไป
ทั้งนี้ มีเด็กบางคนที่ได้ขึ้นมาอ่านบทเรียงความของตนเองว่า เป็นเด็กที่ยากจน ต้องช่วยเหลือครอบครัว ออกมารับจ้างในวันเสาร์ - อาทิตย์ เด็กบางคนไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ อาศัยอยู่กับตายาย หรืออยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เขารับเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งสะท้อนว่าสังคมไทยยังมีคนจน เด็กยากจน เด็กขาดพ่อแม่ อีกมาก ที่สังคมต้องเข้ามาสอดส่อง และดูแลเยียวยาให้กับเขาเหล่านั้น