ตาก - นายดาบตำรวจ ตชด.ที่ 34 ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ชักปืนยิง “สวป.สภ.อุ้มผาง” ที่มีศักดิ์เป็นพี่เขย กระสุนเข้าท้ายทอยร่างทรุดคาห้องครัวอาการสาหัส ก่อนควบกระบะออกจากพื้นที่ทันที ขณะที่ จนท.เร่งประสาน ฮ.นำคนเจ็บส่ง รพ.แม่สอด อย่างเร่งด่วน
ค่ำวันนี้(24 ก.พ.) พ.ต.อ.ชนะชัย เสรีพงศ์ ผกก.สภ.อุ้มผาง จ.ตาก ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 937 สภ.อุ้มผาง ว่ามีเหตุยิงกัน บริเวณบ้านเลขที่ 39 หมู่ 1 ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม พันธุ์พฤกษ์ สารวัตรสอบสวนเวร สภ.อุ้มผาง เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่า พ.ต.ท.อำนาจ คุณยศยิ่ง สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.อุ้มผาง เจ้าของบ้านถูกยิง กระสุนฝั่งในศีรษะอาการสาหัส จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอุ้มผาง ก่อนจะมีการประสานเฮลิคอปเตอร์ สตช.นำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สอด อย่างเร่งด่วน ขณะที่บริเวณหลังบ้านพบกองเลือดบริเวณพื้นครัว จำนวน 1 จุด และพบรอยเลือดเป็นทางยาวบริเวณชั้นวางเครื่องครัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนนางวัลลภา ยะสุคำ อายุ 50 ปี ญาติภรรยา พ.ต.ท.อำนาจ ให้การว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือ ด.ต.สุวรรณ แสนวงษ์ อายุ 48 ปี เป็นตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน โดยก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ด.ต.สุวรรณ ได้เดินทางจาก กก.ตชด.34 กลับมาบ้านที่ อ.อุ้มผาง แล้วเกิดมีปากเสียงกับญาติพี่น้อง ซึ่งเป็นภรรยาของ พ.ต.ท.อำนาจ มาครั้งหนึ่งแล้ว
ต่อมาในช่วงก่อนค่ำวันนี้ ขณะ พ.ต.ท.อำนาจ กำลังทำกับข้าวในครัวบริเวณหลังบ้าน ด.ต.สุวรรณ ซึ่งกลับมาจากงานเลี้ยงในสภาพคล้ายกับเมาสุรา และได้เดินเข้ามาภายในครัว ก่อนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ยิง พ.ต.ท.อำนาจ ขณะกำลังทำกับข้าวจำนวน 1 นัด กระสุนถูกบริเวณท้ายทอยด้านหลัง จากนั้นได้ขับรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบยี่ห้อ สภาพใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีออกจากอำเภออุ้มผาง ทันที
จากการสอบสวนคาดว่า มูลเหตุจูงใจน่าจะเป็นเรื่องปัญหาครอบครัว เพราะมือปืนที่ลงมือยิง กับคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้น มีศักดิ์เป็นพี่เขยกับน้องเมีย และมือปืน ซึ่งเป็นน้องภรรยาของ พ.ต.ท.อำนาจ มีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินกันมานาน
ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายพร้อมอาวุธครบมือ ได้สนธิกำลังกันลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายอย่างกระชั้นชิดแต่ยังไม่พบตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ก็ได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ จัดทำบันทึกตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้สอบสวนขยายผล และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
