ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ -ตร.คุมตัวคนร้ายก่อเหตุดักแทงหนุ่มรถตู้ตายคาที่จอดรถคอนโดกลางเมืองเชียงใหม่ สอบละเอียด หลังติดตามจับกุมได้คามุ้งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ อ้างแค้นส่วนตัว แต่ จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ
ความคืบหน้าคดีที่คนร้ายเป็นชาย 1 คนรูปร่างใหญ่สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง นายศุภกร ยาวิชัยย์ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 183/43 หมู่ 2 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่เสียชีวิตข้างรถตู้ของตนเอง บริเวณซอยทางเข้า เอส อาร์ คอนโดมิเนียม ถนนวัดหนองป่าครั่ง ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่จอดรถและกำลังจะเดินกลับที่พักในอาคาร เอส อาร์ คอนโดมิเนียม ช่วงค่ำวันที่ 22 ก.พ.61
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงคืนวานนี้(23 ก.พ.61) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมตำรวจภูธรแม่ปิงเชียงใหม่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ทำการจับกุมตัวนายบรรลือ อู่บุญทา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี หลังสืบทราบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว และหลบหนีไปกบดานที่อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยจับกุมได้ขณะนอนอยู่มุ้ง จากนั้นได้ควบคุมตัวกลับมาสอบปากคำที่จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ช่วงเช้าวันนี้(24 ก.พ.61) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ได้ควบคุมตัวนายบันลือ ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ และตรวจร่างกาย โดยเฉพาะการตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาล จากนั้นนำตัวกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งที่สถานีตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นนายบรรลือ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง แต่ยังคงให้การวกวน โดยอ้างว่าลงมือเนื่องจากโกรธแค้นผู้ตาย รวมทั้งมึนเมาและบันดาลโทสะ ทั้งที่จากหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดพบว่ามีการมาดักรอผู้ตายก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ
ขณะที่ข้อมูลจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบจุดน่าสงสัยหลายอย่าง ทั้งการที่นายบรรลือ ทำลายหลักฐานบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคาร รวมทั้งการใช้โทรมือถือหลังก่อเหตุ คล้ายโทรแจ้งรายงานผล นอกจากนี้พบด้วยว่านายบรรลือ เพิ่งเคยเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เมื่อประมาณ 3 วันก่อนลงมือก่อเหตุ และหลังเกิดเหตุได้ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ลงกลางทางที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปขออาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอวังโป่ง ที่เคยบวชเป็นพระ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากหลักฐานกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุไม่กี่นาที นายบรรลือ ได้นั่งซ้อนวินมอเตอร์ไซค์มาส่งลงตรงจุดเกิดเหตุ ต่อมาผู้ตายได้ขับรถตู้มาจอดและลงจากรถ ก่อนที่นายบรรลือ จะเดินตรงเข้ามาพูดคุยและลงมือก่อเหตุ แล้วหลบหนีไป ซึ่งการก่อเหตุดูคล้ายจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายค่อนข้างดี ทั้งนี้คาดว่าหลังจากสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งแล้ว น่าจะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุในวันพรุ่งนี้(25 ก.พ.61)