ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มเมืองชลฯ สุดเซ็ง ป้ายชื่อร้านประจำตระกูล อายุกว่า 120 ปี ถูกคนร้ายขโมยหายตั้งแต่ก่อนเทศกาลตรุษจีน เผยมีคุณค่าทางจิตใจ วอนคนเอาไปนำมาคืน หรือขายคืนให้แก่ครอบครัว อย่างไรก็ดี ยังเร่งให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายหากไม่นำมาส่งคืน เพื่อไม่ให้ก่อเหตุกับครอบครัวคนอื่น เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มคนเล่นป้ายเก่า
จากกรณีผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Supachai Boondirek ได้โพสต์ข้อความเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา เรื่องการถูกคนร้ายขโมยป้ายร้านที่มีอายุเก่าแก่กว่า 120 ปี ของวงศ์ตระกูลหายไป พร้อมระบุข้อความว่า “ใครเล่นป้ายเก่ากรุณาชี้เป้าด้วยครับ # สภาพจิตใจครับ # ป้ายร้านโดนขโมย แจ้งความแล้วใครซื้อถือว่ารับของโจร 09-4769-1798 ขอความกรุณาครับ # ชื่อร้านศรีซ่อมไทย”
และเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังโพสต์ข้อความว่า “ความสุขตรุษจีนจะผ่านไป ผมขอฝากข้อความนี้หน่อย หรือใครได้เบาะแสช่วยชี้เป้าหน่อยครับ ผมขอซื้อคืนก็ได้ครับ ติดต่อได้ที่ 09-4769-1798 # ป้ายร้านถูกขโมย # ร้านศรีซ่อมไทย # วัสดุเป็นไม้ ตัวหนังสือสีทอง ช่วยแชร์หน่อยครับ ขอบคุณครับ # จะนานขนาดไหนผมก็จะหาต่อไปครับ ต่อให้ลูกผมโตก็จะหาครับ.....///” จนทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านศรีซ่อมไทย ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 522/33-34 ถนนชัยประชา ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง เปิดเป็นร้านซ่อมมอเตอร์ไฟฟ้า และปั๊มน้ำไฟฟ้า เพื่อพบกับ นายศุภชัย บุญดิเรก อายุ 40 ปี ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว เพื่อให้นำไปดูร่องรอยป้ายชื่อร้านที่หายไป
นายศุภชัย กล่าวว่า รู้สึกเสียดายป้ายบรรพบุรุษที่ทำไว้กว่า 120 ปี ซึ่งหากคนร้ายได้เห็นข่าวนี้ก็ขอให้นำส่งคืน หรือนำมาขายคืนให้แก่ตนเอง และครอบครัว เนื่องจากมีค่าทางจิตใจ และลูกหลานทุกคนต่างใจเสียหมดที่ป้ายหายไป
“ก่อนตรุษจีนก็ตั้งใจว่าจะนำป้ายมาทำความสะอาดเพื่อฉลองตรุษจีน แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นป้ายแล้ว เชื่อว่าคนที่เอาไปน่าจะเป็นกลุ่มที่เล่นป้ายเก่า ซึ่งจริงๆ ถ้าเราจะทำป้ายใหม่ก็ทำได้ แต่มันก็ไม่เหมือนของเดิมเพราะมีคุณค่าทางจิตใจ ตอนนี้ได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ไว้แล้ว และหากคนที่เอาไปนำมาคืนก็ยินดีที่จะถอนแจ้งความ และขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามป้ายคืนให้ด้วย หรือช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อไม่ไปก่อเหตุขโมยป้ายของร้านอื่นอีก” นายศุภชัย กล่าว
