กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านบ้านโพนสวาง อ.สหัสขันธ์ ออกหาเก็บ “ขี้ตก” หรือยางจากต้นพลวง และต้นยางนา ในป่าแถวหมู่บ้าน ทำกระบองขี้ไต้ส่องสว่าง แบ่งขายสร้างรายได้วันละ 100-200 บาท
“ขี้ตก” เป็นยางไม้ที่ไหลออกจากต้นยางพลวง ลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยน้ำยางจะออกตามลำต้น และกิ่งก้านต่างๆ ก่อนจะตกลงมายังพื้น โดยชาวบ้านมักนิยมนำมาคลุกกับขุยของต้นยางพลวงก่อนมาทำเป็นกระบองขี้ไต้ เป็นเชื้อเพลิงในการติดไฟประเภทเตาฟืนและเตาถ่าน ในเวลาหุงหาอาหาร เพราะน้ำยางต้นยางพลวงจะติดไฟได้ง่าย
ต้นยางพลวง เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก มีความสูงประมาณ 10-20 เมตร มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นหลายชื่อเช่น กุง ในแถบภาคอีสาน ตรึงขาว ในแถบภาคเหนือ ส่วนยางพลวงเป็นชื่อเรียกในแถบภาคกลาง
นางสอน โพธิ์บอน อายุ 67 ปี ชาวบ้านบ้านโพนสวาง ต.นามะเขือ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่หมู่บ้านติดกับป่าโดยเฉพาะต้นยางนาและต้นพลวง ซึ่งมียางหรือที่ชาวบ้านเรียกขี้ตก ร่วงหล่นกระจายอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ยางหรือขี้ตกเป็นวัสดุติดไฟที่เอาไปทำ “กระบองขี้ไต้” หรือ “คบไฟ” ในอดีต และเอาไว้ติดไฟเวลาก่อไฟทำกับข้าวสำหรับบ้านที่ไม่ใช้เตาแก๊สยังใช้ฟืนและถ่าน เป็นวัสดุที่หาง่ายถ้ามีป่ามีต้นไม้
สำหรับขี้ตกเป็นที่ต้องการของตลาดในชุมชนเป็นอย่างมาก โดยบรรจุใส่ใบตองวางจำหน่ายในตลาดราคาห่อละ 40 บาท ในปริมาณประมาณ 1 กำมือ
“ช่วงนี้ว่างเว้นจากการทำการเกษตรได้ออกหาเก็บขี้ยาง หรือขี้ตก ที่หล่นลงพื้นตามป่าและในหัวไร่ปลายนา 1 วันอาจจะได้ขี้ตกมากถึง 10 กก. บางวันอาจได้น้อยทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ แต่ทุกวันนี้ต้นพลวงหรือยางพลวงเริ่มหายากและมีน้อยลง” นางสอนเล่า และบอกอีกว่า
หลังหมดฝนยังพอได้ออกมาเก็บขี้ตกเอาไว้ใช้เองในครัวเรือน เก็บสะสมจนมีจำนวนมาก ชาวบ้านมาขอซื้อก็แบ่งขาย ตั้งแต่ 5 บาท 10 บาท ตามแต่จำนวนเงินที่ซื้อ และนำไปวางขายที่ตลาดชุมชนยังพอได้ขาย นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าออกตระเวนรับซื้อเพื่อไปทำกระบองขี้ไต้ หรือกระบองคบไฟ พอเป็นรายได้เลี้ยงตัวเองวันละ 100-200 บาท