ศูนย์ข่าวศรีราชา - เศรษฐีใจบุญเมืองพานทอง จ.ชลบุรี สั่งเสียลูกๆ ก่อนตาย จัดพิธีโปรยทานช่วยเหลือผู้ยากไร้ พร้อมบริจาคเงินให้แก่องค์กรต่างๆ ด้านลูกๆ ไม่ขัดใจ นำทั้งสร้อยทองหนัก 2 สลึง เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้าโปรยทานก่อนพิธีวางดอกไม้จันทน์ ทำประชาชน ผู้ยากไร้ นักเรียนแห่ร่วมงานจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังบริจาคเงินให้โรงพยาบาล และวัดต่างๆ ในพื้นที่ รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท ลูกเผยเมื่อครั้งพ่อก่อนเสียชีวิตก็ทำเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (19 ก.พ. ) ประชาชนในพื้นที่ ม.5 ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พากันเข้าร่วมพิธีที่ฌาปนกิจศพ คุณแม่สาคู สวัสดิวงษ์ อายุ 91 ปี ซึ่งบรรดาลูก และหลานของคุณแม่สาคู ได้ร่วมกันจัดขึ้นที่วัดวรพรตสังฆาวาส ซึ่งพิธีการต่างๆ ล้วนเป็นไปตามศาสนา แต่ที่พิเศษกว่างานศพอื่นๆ ก็คือ เจ้าภาพได้นำทองคำเส้นละ 2 สลึง จำนวน 1 เส้น พร้อมด้วย ตู้เย็น ทีวีสี พัดลม จักรยาน ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ต่างๆ อีกมากมายแจกโปรยทานให้แก่ผู้ร่วมงาน และผู้ยากไร้
นอกจากนั้น บรรดาญาติๆ ยังได้มอบเงิน จำนวน 1,100,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลพานทอง และยังมอบเงิน จำนวน 3 หมื่นบาท ให้แก่วัด และโรงเรียนรวม 5 แห่ง รวมเป็นเงินอีก 1.5 แสนบาท ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าสิ่งของ และเงินบริจาคทั้งหมดแล้วไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการโปรยทานก่อนพิธีวางดอกไม้จันทน์ เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีทั้งผู้ร่วมงาน นักเรียน และผู้ยากไร้ รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวได้พากันมารอรับห่อกระดาษที่ทางญาติได้ระบุสิ่งของไว้ภายในเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ที่รอรับการโปรยทานแล้ว ยังทำให้บรรยากาศภายในงานไม่เศร้าโศกจนเกินไป
ส่วนผู้ที่โชคดีที่ได้ทองคำหนัก 2 สลึง คือ ด.ญ.ปภัสรา เชยเอี่ยม อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนประเสริฐสุข ที่เมื่อรู้ว่าตัวเองได้ทองคำก็ถึงกับดีใจจนน้ำตาไหล
ด้าน นายวุฒินันท์ สวัสดิวงษ์ ครูชำนาญการ ซึ่งเป็นบุตรชายของแม่สาคู เผยว่า เนื่องจากครอบครัวเคยมีฐานะยากจนมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งพ่อและแม่มีอาชีพเกษตรกร และต่างพากันตั้งใจทำงานเพื่อเก็บหอมรอมริบเงินทองจนพอมีกำลังที่จะซื้อที่ทางเก็บไว้ และส่งลูกๆ ให้ได้เรียนจนสำเร็จการศึกษาทุกคน
“พ่อกับแม่ชอบทำบุญทำทานมาก บริจาคเงินสร้างวัดหลายแห่ง รวมทั้งยังบริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งด้วย เมื่อชราภาพ ทั้งพ่อและแม่ได้สั่งเสียไว้ว่า หากเป็นอะไรไปก็ให้ทำบุญแจกทานอย่าได้เสียดาย เขาเรียกว่า ทิ้งติ้ว มีเงินแบ่งปันคนยากจน ตอนพ่อจากไป ก็เคยแจกมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน และเมื่อแม่จากไปอีกคน บรรดาลูกๆ ก็ทำตามความประสงค์ เพื่อให้แม่มีความสุขในสัมปรายภพ และได้เดินทางสู่สรวงสวรรคต่อไป นายวุฒินันท์ กล่าว
