บุรีรัมย์ - กลับถึงบ้านเกิดแล้ว ร่างไร้วิญญาณหนุ่มแรงงานชาวบุรีรัมย์หนีทัวร์ค้าแรงงานเถื่อนที่เกาหลีถูกกดขี่สารพัดไม่ได้ค่าแรงตามฝันจนผูกคอตาย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติ ภรรยาเผยทั้งน้ำตาหากย้อนเวลากลับได้จะไม่ชวนสามีไปตกนรกทั้งเป็น บอกสามีหลับให้สบายจะดูแลลูกทั้ง 3 อย่างดีแม้ขาดเสาหลัก ฝากเตือนคนคิดไปขุดทองต่างแดน และขอบคุณ “น้องดา” หญิงไทยช่วยส่งศพกลับ
วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพของนายวันสิน บุญกลาง อายุ 40 ปี หนุ่มแรงงานชาว ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่ผูกคอเสียชีวิตที่ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากถูกชวนจากนายหน้าที่ติดต่อกันทางเฟซบุ๊กให้หนีทัวร์ค้าแรงงานเถื่อนที่เกาหลี แต่ถูกทารุณกดขี่สารพัดทั้งยังไม่ได้ค่าแรงานอย่างที่คาดหวัง จนเกิดความเครียดต้องจบชีวิตด้วยการผูกคอเสียชีวิตอย่างไร้ญาติในต่างแดน ถูกส่งกลับมาถึงบ้านเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวญาติพี่น้อง
โดยเฉพาะ น.ส.ออม วงศ์จันทร์ ภรรยายังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีไปแบบกะทันหันโดยไม่ทันได้ร่ำลาสั่งเสีย ซึ่งหลังจากศพมาถึงมีชาวบ้านที่ทราบว่าเดินทางมาร่วมงานและแสดงความเสียใจจำนวนมาก ซึ่งทางครอบครัวได้ตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่บ้าน และมีกำหนดจะฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) ที่วัดบ้านประดู่ ต.ห้วยสำราญ
ขณะนี้ได้มีเหล่ากาชาด นายอำเภอกระสัง และองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสำราญ เดินทางมาร่วมงานศพและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนายวันสินในเบื้องต้นแล้ว ขณะที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ทั้งสำนักงานจัดหางานจังหวัด ประกันสังคม และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน ได้หาแนวทางช่วยเหลือเรื่องตำแหน่งงานว่าง และฝึกทักษะฝีมือเพื่อให้ น.ส.ออม และลูกสาวคนโตได้มีอาชีพหลังจากที่ต้องขาดเสาหลักไป ส่วนที่ น.ส.ออมต้องการให้ช่วยเหลือคือภาระหนี้สิน ธ.ก.ส. และหนี้นอกระบบที่กู้ยืมเดินทางไปเกาหลีกว่า 280,000 บาท ทุนการศึกษาลูก 3 คน และเงินทุนประกอบอาชีพค้าขาย เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว
ด้าน น.ส.ออม ภรรยา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับ เหมือนขาดเสาหลัก หากย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่คิดจะชวนสามีไปทำงานที่เกาหลีเพราะเหมือนตกนรกทั้งเป็น ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต พร้อมบอกสามีหลับให้สบายได้กลับมาถึงบ้านแล้ว ตนจะทำหน้าที่เลี้ยงลูก 3 คนให้ดีที่สุดแม้จะยากลำบากก็ตาม
พร้อมฝากเตือนคนที่คิดจะไปทำงานต่างประเทศอยากให้ตัดสินใจให้ดี เพราะอยู่เมืองไทยว่าลำบากหาเช้ากินค่ำแล้วไปอยู่ต่างประเทศลำบากกว่าหลายเท่า และหากคิดจะไปก็อยากให้ไปแบบถูกกฎหมายผ่านกรมการจัดหางานจะดีกว่า อยากให้กรณีของสามีตนเป็นอุทาหรณ์แก่คนที่คิดจะลักลอบไปทำงานโดยผิดกฎหมาย ว่าสิ่งที่คิดว่าจะได้ไม่คุ้มกับสิ่งที่สูญเสีย
น.ส.ออมยังได้ฝากขอบคุณ “น้องดา” หญิงไทยมีสามีชาวเกาหลีที่อาสาติดต่อประสานงาน และเปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินเป็นค่าใช้จ่ายส่งศพสามีกลับบ้าน รวมถึงหน่วยงานราชการที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแม้ว่าสามีจะลักลอบไปทำงานเกาหลีโดยผิดกฎหมาย และชาวบ้านที่มาให้กำลังใจครอบครัวด้วย