อุบลราชธานี - รองอธิบดี DSI นำทีมลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีสอบผู้เสียหายที่ถูกตุ๋นกว่า 100 รายให้ซื้อเครื่องหมาย ยศตำแหน่ง ใช้เชื่อมโยงจับผู้ร่วมในขบวนการที่ยังลอยนวล หลังสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ช่วงสายวันนี้ (14 ก.พ.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและชุดสอบสวนคดีหลอกลวงให้ประชาชนเข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วมีสิทธิแต่งเครื่องแบบ พกพาอาวุธปืน ตรวจค้นบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการ และตั้งด่านตรวจค้นได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2560 พ.ต.อ.ทวี กิติวิริยกุล ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี และทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุบลราชธานี เข้าจับตัวผู้ต้องหา คือ นายศุภวัฒน์ ศิลารักษ์ อายุ 25 ปี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานมูลนิธิบรรเทาภัยอุบลราชธานี นายสุนทร แสงวงษ์ อายุ 65 ปี รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ และนายชัชนันท์ พงศ์พานิชณ์ อายุ 33 ปี สมาชิกที่แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง
พร้อมยังยึดเครื่องแบบสีกากี เครื่องแบบปกติขาว เครื่องหมายประดับบ่า วิทยุสื่อสาร เอกสารการสมัครสมาชิก รวมทั้งสิ่งของที่คนทั้ง 3 ไปขอรับบริจาคจากห้างร้านและประชาชน โดยอ้างจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี หลังการจับกุมพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคนทั้ง 3 ว่าแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งฟ้องดำเนินต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีไปแล้ว
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการของดีเอสไอ ซึ่งได้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบว่านอกจากมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้สมัครเป็นสมาชิก ซื้อเครื่องหมายประดับ ซื้อตำแหน่งยศ ทำให้เกิดความเสียหายเฉลี่ยคนละตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักแสนบาท
เฉพาะที่จังหวัดอุบลราชธานีมีผู้เสียหายมากกว่า 100 คนแล้ว ยังพบว่ามีผู้เสียหายกระจายอยู่ในภูมิภาคอื่นๆ อีกกว่า 100 ราย โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังทำเป็นขบวนการนอกจาก 3 คนที่ถูกจับไปแล้ว จึงมาทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหายใช้เป็นพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปใช้จับกุมกลุ่มพวกที่เหลือและยังไม่ถูกจับกุม
เพราะเรื่องนี้ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายที่ถูกหลอกให้ซื้อเครื่องหมาย ซื้อตำแหน่งและยศคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ถือว่าเข้าลักษณะข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังการสอบสวนผู้เสียหายเสร็จแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษจะแจ้งข้อหาเพิ่มแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ที่ถูกจับที่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมตามจับพวกที่เหลือมาดำเนินคดีด้วย