ชัยภูมิ - ผวาอาถรรพ์ หนุ่มชัยภูมิวัย 38 ปีน้อยใจเมียหนีผูกคอดับในกระท่อมกลางสวนท้ายหมู่บ้าน เผยจุดใกล้กันมีคนต่างถิ่นมาผูกคอเสียชีวิตในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 3 ราย ชาวบ้านเชื่อเป็นจุดกระชากวิญญาณ เตรียมหารือผู้นำชุมชนทำบุญใหญ่หมู่บ้านเพื่อล้างอาถรรพ์ขจัดสิ่งชั่วร้าย
วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 07.50 น. ร.ต.อ.ภูวเดช ชัยจันทึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองชัยภูมิ ว่ามีบุคคลผูกคอเสียชีวิตภายในกระท่อมกลางสวนท้ายหมู่บ้านคลองเรียง หมู่ที่ 8 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ และแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิร่วมชันสูตรพลิกศพ
ในที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมในสวนท้ายหมู่บ้าน พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่ในสภาพตัวแข็งลิ้นจุกปากแขวนคอกับคานไม้ด้วยผ้าขาวม้า สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาว จากการตรวจร่างกายพบบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อต่อมาคือ นายประทวน ดังชัยภูมิ อายุ 38 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 77 บ้านผือ หมู่ที่ 1 ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
นายวิจิต คำอิน ผู้พบผู้เสียชีวิตคนแรก กล่าวว่า ตนออกมาดูสวนทุกเช้า และเย็นเป็นประจำ วันนี้ช่วงเช้ามาดูเหมือนทุกวัน เดินทางมาใกล้ถึงกระท่อม มองดูไกลๆ คล้ายกับมีคนกำลังยืนอยู่ในกระท่อมจึงรีบเข้าไปดู เมื่อมาถึงต้องผงะเมื่อพบว่าเป็นร่างคนผูกคอตายกับคานไม้ในกระท่อม จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
ทางด้านเพื่อนผู้ตายกล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาผู้ตายได้มาหาตนแล้วบอกว่าทะเลาะกับภรรยาจึงได้มาดื่มเหล้าจนเมาหลับไปอยู่ที่บ้านตน ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ โดยไม่คิดว่าเพื่อนจะน้อยใจเมียถึงกับต้องมาแอบผูกคอฆ่าตัวตาย
ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงเมื่อทราบข่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานที่เกิดเหตุ เพราะเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีชายต่างหมู่บ้านต่างอำเภอแอบมาผูกคอตายในลักษณะเดี๋ยวกันนี้ในจุดใกล้เคียงกัน เสียชีวิตมาแล้ว 2 ราย และครั้งนี้เป็นรายที่ 3 ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะมีอาถรรพ์ และกำลังปรึกษาผู้นำชุมชนเพื่อที่ทำบุญหมู่บ้านครั้งใหญ่เพื่อล้างอาถรรพ์ขจัดสิ่งชั่วร้าย และสร้างขวัญกำลังใจให้คนในชุมชน
ด้าน ร.ต.อ.ภูวเดช ชัยจันทึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ และแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิ ได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ซึ่งจะรวบรวมพยานหลักฐานและส่งศพให้แพทย์ชันสูตรให้ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป