xs
xsm
sm
md
lg

รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ-อธิบดีอุทยานฯ เชื่อมั่น “หน.วิเชียร-ผอ.กาญจนา” ทำงานตามหน้าที่คดีจับ “เปรมชัย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยัน “หน.วิเชียร-ผอ.กาญจนา” เบาใจได้คดีจับกุม “เปรมชัย” และพวกเข้าป่าทุ่งใหญ่นเรศวรล่าสัตว์ ยันทำถูกต้องตามขั้นตอนของกระทรวงฯ ทั้งการจับกุม และการอนุญาตให้เข้าป่า ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ ยันไม่มีการสั่งย้ายทั้ง 2 คน

วันนี้ (10 ก.พ.) พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการป่าในเมือง “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” ที่บริเวณสวนรุกขชาติห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่  
พร้อมเปิดเผยถึงคดีที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) และพวกถูกจับ พร้อมยึดของกลาง อาวุธปืน และซากสัตว์ โดยเฉพาะเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก
 
โดยระบุว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ส่วนแรกคือเรื่องของผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่มีความสามารถเข้าไปทำการจับกุมดำเนินคดี รวบรวมพยานหลักฐาน ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วทั้งสิ้น 9 ฐานความผิด และได้มีการดำเนินการส่งเรื่องให้ทางพนักงานสอบสวนในพื้นที่ไปตามกระบวนการยุติธรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามคดีที่มีตนเองเป็นประธาน และ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเป็นที่ปรึกษา โดยมีทีมนักกฎหมาย ทีมอัยการเข้ามาร่วมเพื่อติดตามคดีไปจนสิ้นสุดคดีความ และในส่วนที่สอง เป็นเรื่องที่จะมาดูว่าเจ้าหน้าที่ในสังกัดนั้นมีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง รวมไปถึงการใช้ดุลพินิจต่างๆ ที่จะต้องมีการตรวจสอบและควรจะมีการเพิ่มมาตรการอย่างไร ขณะเดียวกัน มีคนกระทำความผิดสมควรถูกลงโทษ และส่วนของข้าราชการจะต้องรับผิดเรื่องใดบ้างนั้นสังคมก็ต้องช่วยกันดูอีกทางหนึ่งด้วย และในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ทำงานตามปกติ

ขณะเดียวกัน ภายหลังจากที่ทราบเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเสริม และประสานกับทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าไปในพื้นที่ทันที โดยจะเห็นได้ว่าหลังการเกิดเหตุครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถเก็บพยานหลักฐานได้อย่างรวดเร็ว และมีทีมใหญ่ๆ เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเก็บรวบรวมหลักฐานที่มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูประเด็นของข้อกฎหมายต่างๆ ที่ต้องมีทีมที่สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย

ส่วนในเรื่องของการที่จะตรวจสอบเรื่องของการกระทำผิดก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนี้นั้นก็กำลังเร่งทำการตรวจสอบในทุกพื้นที่ที่จะมีความเสี่ยงที่คาดว่าอาจจะไม่ใช่รายนี้เพียงรายเดียว หรืออาจจะเคยมีการกระทำมาแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่ แม้กระทั่งอาวุธปืนที่มีลักษณะเป็นอาวุธใช้ล่าสัตว์ที่ได้มีการตรวจค้นเจอจำนวนมาก โดยทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็กำลังประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอขึ้นบัญชีและตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่ได้จดทะเบียนเป็นปืนลักษณะล่าสัตว์ไว้ เพื่อจะได้ติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนได้ด้วยว่านำมาใช้ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้ทุ่มเทและให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยได้เน้นเรื่องของผู้กระทำความผิดเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องของจุดอ่อน หรือจุดบกพร่องของเจ้าหน้าที่นั้นทางคณะกรรมการประจำที่ดูแลในพื้นที่ก็จะมีการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป และในส่วนของประเด็นเรื่องการตรวจสอบ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้มีการชี้แจงแล้วว่าเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบอยู่แล้ว โดยตนยืนยันว่าการดำเนินการในเรื่องนี้ได้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้มีนโยบายจัดตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และจะติดตามเรื่องของคดีจนถึงที่สุด ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หรือ นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า จะถูกย้ายหรือไม่นั้น ในนามของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะย้ายบุคคลเหล่านี้ โดยจากการทำงานตัวเองเป็นคนคัดสรรคนเข้ามางาน โดยนายวิเชียรถือว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการสั่งย้าย หรือมีการกดดัน ซึ่งทุกอย่างจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด


กำลังโหลดความคิดเห็น