นครสวรรค์ - พบหนุ่มเมืองปากน้ำโพ ลูกจ้างบริษัทตอกเสาเข็ม..ใจบุญ แบ่งค่าจ้างกว่าครึ่ง แถมตระเวนขายผ้ามือสอง-เปิดให้คนเช่าพระเครื่อง ซื้ออาหารเลี้ยงสุนัขจรจัด-พิการ ที่เก็บจากข้างถนนมาเลี้ยงนับสิบปี ล่าสุดมีเกือบครึ่งร้อยตัวแล้ว
หนุ่มปากน้ำโพ-นครสวรรค์ ใจบุญรายนี้คือ นายบุญรอด ยนต์ตะสาต วัย 41 ปี ที่ใช้บ้านเลขที่ 312 หมู่ 2 ต.หนองกระโดน อ.เมืองนครสวรรค์ เนื้อที่ราว 100 ตารางวาง มีรั้วคอนกรีตสูง 150 ซม. นำสุนัขพิการ-จรจัด ที่เก็บมาจากข้างถนนมาเลี้ยงมากกว่า 40 ตัว โดยมีทั้งปล่อยให้วิ่งเล่นภายในบริเวณบ้าน และให้อยู่ในกรง
และ เรื่องราวดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทาง ไปบ้านเลขที่ 312 หมู่ 2 ต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีบ้านติดกับถนนเข้าบ้าน บนเนื้อที่ 100 ตรางวา มีกรงขังสุนัขพิการ บางตัว วิ่งเล่นภายในรั้วปูนคอนกรีต สูง 150 ซม และ ได้ยินเสียง เห่า หอน ของสุนักกว่า 40 ตัว พบชายวัยหนุ่ม พร้อมได้สอบถาม
นายบุญรอด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นลูกจ้างของบริษัท ดีสตาร์เสาเข็ม จำกัด ราวปี 2550 นายจ้างให้ตะเวนออกไปทำงานตอกเสาเข็ม ทั่วทั้งจังหวัดนครสวรรค์ และต่างจังหวัด เช่น เพชรบูรณ์ , อุทัยธานี ฯลฯ ก็เห็นสุนัขพิการ สุนัขจรจัดข้างถนนไม่มีใครดูแล ด้วยความสงสารจึงเก็บมาเลี้ยงที่บ้าน
“แรกๆก็มีแค่ 5 ตัว ต่อมาก็ออกลูกเพิ่มขึ้น และเมื่อออกไปทำงาน ก็เห็นสุนัขจรจัดตามข้างถนน ก็เก็บมาเลี้ยงอีก เพราะความสงสาร จาก 5 ตัว ก็เพิ่มขึ้นเป็น 40 กว่าตัวแล้ว”
นายบุญรอด บอกว่า ทุกวันนี้ตนต้องซื้ออาหารมาเลี้ยงสุนัขเหล่านี้วันละ 250-300 บาท ขณะที่ตนมีเงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท ถามว่า พอไหม..ก็ไม่พอแน่นอน ดังนั้นวันไหนว่างจากงานตอกเสาเข็ม ก็จะตระเวนออกไปขายเสื้อผ้ามือ 2 ตัวละ 20 หรือ 50 บาท และจำหน่ายพระเครื่องให้คนเช่า เพื่อนำรายได้มาซื้อข้าวสาร ซีโครงไก่บดมาเลี้ยงสุนัข
“ตนไม่เคยคิดท้อ เพราะทำแล้วมีความสุข บางครั้งเคยได้ยินคนเขาว่าเอาหมามาหากิน ตนก็เฉยๆ เพราะทำไปด้วยใจรักบริสุทธิ์ ไม่อะไรแอบแฝง หมาก็มีชีวิต คนก็มีชีวิต เรากินอิ่ม หมาก็กินอิ่ม เรามีความสุขแค่นั้น แฟนตน ก็รักสุนัขเช่นกัน จึงเข้าใจกัน”
ด้านนายสาธิต รักการพานิช นายจ้างของนายบุญรอด เปิดเผยว่า แรกๆไม่ได้คิดอะไร เห็นนายบุญรอด ชอบเล่นกับสุนัข-เลี้ยงสุนัขในบ้านหลายตัว ก็ไม่ได้ถาม เขามาขอเบิกเงินล่วงหน้า หลายครั้งก็ให้ไป นานๆไป ด้วยความสงสัย จึงให้ลูกน้องอีกคนเฝ้าติดตามพฤติการณ์นายบุญรอด ว่าเขาเอาเงินไปใช้อะไร ถึงรู้ว่านายบุญรอด เบิกเงินล่วงหน้าไปซื้ออาหารให้สุนัข
นายสาธิต เผยอีกว่า แรกๆก็คิดว่านายบุญรอด นำสุนัขมาเลี้ยงเพราะมีวัตถุประสงค์แอบแฝง แบบเอาสุนัขเป็นช่องทางหากิน เรียกร้องขอรับรับเงินบริจาคจากประชาชน ก็เฝ้าดูมาหลายปี จนแน่ใจว่าเขาไม่มีพฤติการณ์แบบนั้น จึงได้ช่วยเหลือซื้อข้าวสารเดือนละ 100 กิโลกรัม ค่าอาหารอีก 2,000 บาท ทุกเดือนเป็นเวลา 3 ปีแล้ว