ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ตำรวจภูธรภาค 4 บุกจับเจ้าของร้านทองใน จ.กาฬสินธุ์เปิดรับจำนำปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยึดของกลางอาวุธปืนสั้นและปืนยาวกว่า 246 กระบอก ขณะเดียวกันรวบหนุ่มหัวใสชาวหนองกุงศรีลักลอบผลิตกระสุนปืน
วันนี้(9 ก.พ.)ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชุคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จับกุมนายสุระพล เสาวลักษณ์ อายุ 56 ปี ชาวอำเภอกุฉินารายณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านทองเสาวลักษณ์ ตั้งอยู่ภายในอำเภอกุฉินารายณ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาดต่างๆ จำนวน 237กระบอก อาวุธปืนลูกกรดยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และปืนลูกซองยาว จำนวน 5 กระบอก
โดยทางตำรวจสืบทราบว่า ร้านทองดังกล่าวได้รับจำนำปืน จากนั้นจึงได้มีการตรวจยึด ก่อนที่จะควบคุมตัว นายสุระพล แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนาย ทะเบียน หลังจากนั้นขยายผลว่าปืนกระบอกไหนเป็นปืนเถื่อน หรือปืนที่เคยใช้ก่อ เหตุมาก่อนหรือไม่
ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าจับกุมนายอรรถชัย พลอาจทัน อายุ 20 ปี ชาวอำเภอหนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้พร้อมของกลางกรดไนตริก และซัลฟลูลิค ใช้ทำดินปืน 2 แกลอน ค้อน สว่าน อุปกรณ์ เครื่องมีในการผลิต 1 ชุด แผ่นพิมพ์หัวกระสุน จำนวน 1 แผ่น อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ 1กระบอก อาวุธปืนยาว 2 กระบอก ลำกล้องปืน 9 มม.จำนวน 1 อัน โครงสไลด์ 1 อัน เครื่องกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 16 นัด เครื่องกระสุนปืน 9 มม. จำนวน 5 นัด
การจับกุมนายอรรถชัยได้ครั้งนี้เนื่องจากสืบทราบว่านายอรรถชัย ได้มีการผลิตเครื่องกระสุนใช้เอง อาศัยศึกษาการทำกระสุน ปืนจากเว๊ปไซต์กระทรวงกลาโหม โดยการใช้กรดไนตริก กรดซัลฟลูลิค และสำลี ผสมเข้ากันตามสัดส่วน เป็นดินปืน เรียกว่า ดินฐานเดียว
หลังจากนั้นจะนำไปอัดใส่ปลอกกระสุนปืนที่ใช้แล้วที่สามารถสั่งซื้อได้ง่ายตามที่ประกาศขายในสื่อโซเชียล ส่วนหัวกระสุนนั้นทำจากตะกั่ว ซึ่งต้มจนเดือดละลายเทใส่แม่พิมพ์ขึ้นรูป ใส่แก๊ปที่จานท้าย สามารถยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับกระสุนที่ผลิตจากโรงงาน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป