นครพนม - คสช.ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์กำจัดขยะ ทต.นาแก งบ 72 ล้าน แต่กลับปล่อยทิ้งร้างนานร่วม 5 ปี ซ้ำสร้างมลพิษชุมชน สั่งสอบหาผู้รับผิดชอบเอาผิดทั้งแพ่ง อาญา ตามผลการตรวจสอบของ สตง.ที่ชี้มูลสร้างไม่คุ้มค่า ทำรัฐสูญงบเปล่า
วันนี้ (9 ก.พ.) พลตรี ทัพ อุทิตสาร ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วย พ.อ.จักร ศรีจินดา เสนาธิการทหาร กอ.รมน. รวมถึง พ.ท.วิชิต สุภา รองหัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.รมน.จ.นครพนม ร่วมกับ นายประดิษฐ์ แสงสีทาง รองนายกเทศมนตรีตำบลนาแก และคณะเจ้าหน้าที่mujเกี่ยวข้อง รวมถึง นายวาหลิต เชื้อพระซอง อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม และตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย กลุ่มพื้นที่ 3 ที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้านบาทของเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก แต่สร้างเสร็จกลับปล่อยทิ้งร้างนานกว่า 5 ปี ด้วยข้ออ้างต้นทุนการจัดการไม่คุ้มทุน
การลงพื้นที่ตรวจสอบภายใต้การนำของ พลตรี ทัพ อุทิตสาร ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. ในฐานะตัวแทนหน่วยงานทหาร คสช.พบสภาพปัญหาเกี่ยวกับตัวโครงการก่อสร้าง คือเครื่องจักรคัดแยกขยะที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้านบาทใช้งานไม่ได้จริง รวมถึงบ่อกำจัดขยะที่ใช้วิธีการฝังกลบยังไม่มีการบริหารจัดการที่ดี ส่งผลกระทบต่อชุมชน
จึงได้กำชับให้มีการเร่งรัดแก้ไขเร่งด่วน รวมไปถึงการสอบสวนเอาผิดทั้งทางแพ่ง และอาญาเพื่อหาผู้รับผิดชอบตามที่ สตง.มีการชี้มูลเกี่ยวกับปัญหาโครงการว่า ไม่คุ้มค่าในงบประมาณที่ก่อสร้าง พร้อมมอบหมายให้ทหาร กอ.รมน.จ.นครพนม เข้ามากำกับดูแลต่อเนื่อง
ด้าน พ.อ.จักร ศรีจินดา เสนาธิการทหาร กอ.รมน. กล่าวว่า วันนี้ทาง กอ.รมน.จากส่วนกลางได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อให้มีการแก้ไขตามนโยบายรัฐบาล หลังมีปัญหาเรื่องบ่อขยะของทางเทศบาลตำบลนาแก ซึ่งได้หารือร่วมกับทางจังหวัด เทศบาลตำบลนาแก รวมถึงรับทราบปัญหาจากตัวแทนชาวบ้าน จึงได้กำชับให้มีการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
โดยมีประเด็นสำคัญ คือ ให้เร่งรัดดำเนินการสอบสวนเอาผิดตามที่ สตง.ได้ชี้มูลในประเด็นเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ไม่คุ้มค่า ทั้งทางด้านละเมิดรวมถึงทางวินัยต่อผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนเพราะล่าช้ามานาน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาในการบริหารจัดการของบ่อขยะ ทั้งการวางแผนกำจัดขยะให้ดูแลฝังกลบไม่ให้มีกลิ่นเหม็น หรือสร้างมลพิษต่อชุมชน
รวมถึงการหาทางแก้ไขเกี่ยวกับเครื่องจักรให้สามารถใช้งานได้ และการวางแผนแก้ไขบ่อบำบัดน้ำเสียที่ล้นออกไปพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จ.นครพนม รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแลใกล้ชิด ไม่ให้ได้รับผลกระทบ และให้มีการหารือร่วมกันทำข้อตกลงแก้ไขปัญหา
สำหรับศูนย์กำจัดขยะแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการคัดแยกขยะในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย อ.นาแก อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร และ อ.วังยาง จ.นครพนม ซึ่งทำการก่อสร้างในพื้นที่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม ในเนื้อที่กว่า 70 ไร่ ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2554 หลังจากเดินเครื่องใช้งานได้ประมาณ 2 ปีเกิดปัญหา ทางเทศบาลตำบลนาแกได้หยุดเดินเครื่องเนื่องจากมีปัญหาค่าใช้จ่าย ไม่คุ้มทุน ทำให้ถูกปล่อยร้างมานานกว่า 5 ปี
จนเกิดปัญหาเครื่องจักรทรุดโทรม สิ่งที่ตามมาคือ ปัญหาปริมาณขยะเพิ่มขึ้น และยังสร้างมลภาวะให้แก่ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงเพราะต้องรองรับขยะจากพื้นที่ 4 อำเภอวันละไม่ต่ำกว่า 20 ตัน แต่ทำได้แค่การฝังกลบ เนื่องจากเครื่องคัดแยกกำจัดขยะที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านออกมาเรียกร้องเร่งแก้ไขเรื่องมลภาวะ เพราะมีปริมาณมากขึ้น และส่งกลิ่นเหม็น จนกระทั่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 จ.อุบลราชธานี ได้มีการเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุ และมีคำสั่งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2560 ชี้มูลว่าใช้ประโยชน์ไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และไม่มีการใช้ประโยชน์ทั้งระบบ รวมทั้งไม่สามารถปรับปรุง หรือซ่อมแซมให้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ จนเป็นเหตุทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
พร้อมมีคำสั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิด รวมทั้งอาญาและแพ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่ถึงปัจจุบันผ่านไปเกือบ 1 ปีไม่มีความคืบหน้า และยังสร้างมลพิษให้แก่ชุมชน ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งรัดแก้ไข