ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเปิดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่ออนาคตประเทศไทยในระยะ 20 ปีภาคเหนือ ตัวแทนทุกภาคส่วนเข้าร่วม รวบรวมข้อสรุปนำไปปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องตรงตามความต้องการ
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่ออนาคตประเทศไทยในระยะ 20 ปี จากกลุ่มภาคีการพัฒนาในพื้นที่ภาคเหนือเกี่ยวกับร่างยุทธศาสตร์ชาติเบื้องต้นทั้ง 6 ด้าน แนะนำไปปรับปรุงแก้ไขยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับผลการรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติต่อไป โดย ดร.ปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกล่าวเปิดงาน ซึ่งมีตัวแทนทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเข้าร่วมประมาณ 500 คน
ทั้งนี้ ร่างยุทธศาสตร์ชาติที่มีการนำเสนอเพื่อรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้มีด้วยกัน 6 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง, ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน, ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์, ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม, ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเปิดเผยว่า การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่ออนาคตของประเทศไทยในระยะ 20 ปี เกี่ยวกับร่างยุทธศาสตร์ชาติเบื้องต้นทั้ง 6 ด้าน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับผลการรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติต่อไป ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมี สศช.เป็นเลขานุการ
โดยการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นกำหนดจัดใน 4 ภาคทั่วประเทศ โดยภาคเหนือเป็นแห่งที่ 2 ต่อจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหลังจากนี้จะมีการจัดที่ภาคกลาง และภาคใต้ต่อไป จากนั้นจะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งหมดนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรี รวมทั้งสภาต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 61 นี้
