“อุตรดิตถ์” เล็งขอสร้าง “พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๙” กลางบึงกะโล่

อุตรดิตถ์ - จังหวัดอุตรดิตถ์เร่งเดินหน้าขุดลอก-ปรับพื้นที่ เตรียมขอพระบรมราชานุญาตสร้าง “พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๙” ทั้งแบบประทับนั่ง-ประทับยืน กลางบึงกะโล่

นายเสฐียรพงษ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบการขับเคลื่อนพัฒนาพื้นที่บึงทุ่งกระโล่ ต.ป่าเซ่า ต.คุ้งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ที่อยู่ติดกับถนนสาย 11 หรือสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ เพื่อขอใช้พื้นที่ จำนวน 578 ไร่

เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ซึ่งเบื้องต้นสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ออกแบบเรียบร้อยแล้ว ทั้งแบบประทับนั่ง ความสูง 6 เมตร และแบบประทับยืน ความสูง 15 เมตร หรือประมาณ 9 เท่าของพระองค์จริง

“พระบรมราชานุสาวรีย์ดังกล่าวมีความสูงสวยงามสง่าโดดเด่น โดยรูปแบบพื้นที่คล้ายกับแผนที่ประเทศไทย อยู่ในตอนกลางบึงท่ามกลางธรรมชาติของบึงทุ่งกระโล่ที่มีพื้นที่มากถึง 7,500 ไร่เศษ”

นายเสฐียรพงษ์บอกว่า ขณะนี้กรมชลประทานได้ขุดลอกบึง และนำดินจากการขุดลอกมาถมที่บางส่วนเพื่อเตรียมสถานที่ในการก่อสร้างแล้ว และหากขอใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์ผ่านแล้ว จ.อุตรดิตถ์จะได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการก่อสร้างรวมทั้งหมดไปยังพระบรมมหาราชวังให้เร็วที่สุด

“พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๙ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนอุตรดิตถ์ ให้มีความรัก สามัคคี มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 200 ล้านบาทในการก่อสร้าง และการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม”

ด้านนายสมศักดิ์ หอมเพียร กำนัน ต.ป่าเซ่า กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรภายในอุทยานการศึกษาและอุทยานการท่องเที่ยวบึงกะโล่ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่แล้ว ยังใช้เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านหลายตำบลมายาวนาน

“ชาวบ้าน ต.ป่าเซ่าทุกคนต่างเห็นชอบให้จังหวัดจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และต้องการให้จังหวัดดำเนินการโดยเร็ว เพราะหลังจากสร้างเสร็จก็จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทุกคน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาว จ.อุตรดิตถ์ต่อไป”

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม บึงกะโล่แห่งนี้ยังมีปัญหาการบุกรุกเข้าจับจองจากบุคคลหลายกลุ่มทั้งนอก และในพื้นที่ ซึ่งรวมทั้งอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อุตรดิตถ์ นักการเมืองระดับจังหวัด นักกฎหมาย ญาติและข้าราชการครูในสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.อุตรดิตถ์ จนสร้างความขัดแย้งให้แก่ชาวบ้านที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องแหล่งน้ำแห่งนี้ไว้