สองตายายกาฬสินธุ์เก็บเห็ดถูกเข้าคุกอาจได้เฮ! พ้นคุกภายในเดือน ก.พ.นี้

กาฬสินธุ์ - ญาติสองตายาย อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เผยลุ้นสองตายายเก็บเห็ดถูกเข้าคุกอาจได้ออกจากคุกภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังพบพฤติกรรมเป็นนักโทษชั้นดี ยกเป็นคดีตัวอย่างที่คนจนบุกรุกป่าต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากกรณีคดีดัง นายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมในข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการกระทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรารัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต (ป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง) ตั้งแต่ปี 2553

และในปี 2554 ถูกศาลจังหวัดกาฬสินธุ์พิพากษาจำคุกคนละ 30 ปี ลดโทษเหลือ 15 ปี ซึ่งในปี 2557 ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ในปีดังกล่าวศาลอุทธรณ์มีคำแก้ จำคุกเป็น 14 ปี 12 เดือน และเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกสองสามีภรรยาคนละ 5 ปี

ล่าสุดวันนี้ (7 ก.พ. 61) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองกุงไทย ม.4 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านนายอุดม และนางแดง ศิริสอน อายุ 51 ปี โดยทั้งสองยังจำคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ มีรถบรรทุก 6 ล้อ สภาพเก่า ติดสติกเกอร์ ข้อความ “รับยกบ้าน” จอดอยู่ข้างบริเวณหน้าบ้าน มีรถไถนาเดินตาม รถจักรยานยนต์สภาพเก่า และคอกวัว โดยบ้านถูกปิดไว้ไม่มีใครอยู่ สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าปกติบ้านหลังดังกล่าวจะมีน้องสาวเจ้าของบ้านอาศัยอยู่แต่ออกไปเลี้ยงวัวนอกหมู่บ้าน และมีญาติชื่อนายเกษม ศรีภูธร อายุ 51 ปี จะคอยไปเยี่ยมทั้งสองที่เรือนจำเป็นประจำทุกสัปดาห์

สอบถามนายเกษม ศรีภูธร อายุ 51 ปี ญาติสองสามีภรรยาที่ถูกจำคุก บอกว่าหลังจากที่ศาลตัดสินให้ทั้งสองจำคุกตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ตนและญาติๆ ได้เข้าไปเยี่ยมเป็นประจำ ส่วนตนจะไปทุกสัปดาห์เพื่อนำเงินไปให้ทั้งสองใช้จ่ายภายในเรือนจำสัปดาห์ละ 500 บาท ส่วนสุขภาพก็มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นประจำ ซึ่งญาติทุกคนต่างมาให้กำลังใจเป็นประจำ ซึ่งทั้งสองเป็นนักโทษในระดับดีมากมานานหลายเดือน หากอยู่ในระดับดีเยี่ยม ก็จะได้ออกมา

จากการสอบถามผู้รู้เบื้องต้นคาดว่าอาจจะได้ออกภายในเดือนนี้ แต่ก็ยังไม่แน่นอนตนต้องเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากทั้งสองออกมาก็จะมาประกอบอาชีพทำไร่ทำนา รับจ้างทั่วไปเหมือนเดิม ส่วนบ้านหลังนั้นได้ให้น้องสาวอยู่เฝ้าบ้าน แต่ตลอดทั้งวันน้องสาวจะออกไปเลี้ยงวัว นำวัวออกไปกินหญ้านอกหมู่บ้านจะกลับก็ช่วงเย็น ซึ่งวัวที่เลี้ยงหากโตเต็มที่ก็จะนำไปขาย นำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือสองสามีภรรยาที่อยู่ในเรือนจำ

ส่วนการตัดสินของศาลที่ว่าทั้งสองเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้ ตนบอกว่าเรื่องนี้เท่าที่ทราบสองสามีภรรยาก็มีอาชีพทำไร่ทำนาทั่วไป และยังมีฐานะยากจน ปกติทั้งสองจะเข้าไปป่าดงระแนงเพื่อหาเก็บเห็ดเหมือนกับชาวบ้านทั่วไปเท่านั้น โดยขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่มาพบเห็นในช่วงมีการตัดไม้พอดี จึงถูกจับดำเนินคดีทั้งสองและถูกตัดสินจำคุก


ตอนนี้ทำได้เพียงรอทั้งสองออกมาจากเรือนจำเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยคดีดังกล่าวถือเป็นคดีตัวอย่างในการบุกรุกผืนป่าสงวนแห่งชาติ ถึงแม้ทั้งสองจะอ้างว่าเข้าไปเก็บเห็ดเท่านั้น แต่พยานหลักฐานจึงทำให้ศาลต้องตัดสินทั้งสองจำคุก ส่วนคดีที่มีการล่าสัตว์ป่าที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ไม่รู้ว่าจะมีการตัดสินแบบใด