ศูนย์ข่าวศรีราชา - เคาะราคาแพกเกจโปรแกรมท่องเที่ยวทางรถไฟเส้นทางชายฝั่งทะเลตะวันออกแล้ว หัวลำโพง-ชลบุรี รวมจุดเช็กอิน 6 สถานี เล็งเสนอผู้ว่าการการรถไฟฯ พิจารณาอนุมัติอย่างเป็นทางการเร็วนี้
บ่ายวันนี้ (7 ก.พ.) ที่ห้องประชุม 251 ศาลาว่าการเมืองพัทยา ได้จัดการประชุมพิจารณาและติดตามความคืบหน้าโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งภาคตะวันออกโดยรถไฟ ครั้งที่ 2 โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา สมาคมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และตัวแทนผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยวรวม 6 แห่ง ประกอบด้วย สวนน้ำรามายณะ สวนนงนุช พัทยา สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนเสือศรีราชา และตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา เข้าร่วม โดยมี พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ โฆษกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ ด้วยเมืองพัทยาได้มีแนวคิดเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งภาคตะวันออกโดยรถไฟขึ้นเพื่อสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก โดยเฉพาะเมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรีให้มีความเข้มแข็ง และถือเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนองนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ของรัฐบาลที่กำลังผลักดันให้เกิดความเป็นรูปธรรมอยู่ในขณะนี้ โดยที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้พูดคุยแนวคิดดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานหลัก คือ ร.ฟ.ท. ททท.สมาคมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี รวมถึงภาคธุรกิจเพื่อกำหนดทิศทางการทำงานเพื่อให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้มีมติให้คณะทำงานแต่ละด้านไปกำหนดรูปแบบ และวิธีจัดเส้นทางท่องเที่ยวมาเสนอต่อที่ประชุมนั้น
ล่าสุด ได้มีการนำเสนอแพกเกจราคาท่องเที่ยว รวมถึงโปรแกรมการท่องเที่ยวโดยรถไฟที่มีสถานีต้นทางจากหัวลำโพง ถึงเขตจังหวัดชลบุรี รวม 6 สถานีที่เช็กอิน ประกอบด้วย 1.สถานีศรีราชา รถไฟจะมาถึงสถานีรถไฟศรีราชาในเวลา 08.30 น. จากนั้นจะเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้านาจา ก่อนซื้อของฝากที่อ่างศิลา ชมนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์จากเศษเหล็กที่เมทัลอาร์ท ก่อนรับประทานอาหารกลางวันขึ้นชื่อของจังหวัดชลบุรี คือ ผัดไทไข่ปู เย็นตาโฟทะเลและเกี๊ยวปลา ที่ร้านอ้นผัดไทไข่ปูเจ้าเก่า ก่อนกลับมาพักผ่อน และชมความน่ารักของเสือแสนรู้ที่สวนเสือศรีราชา จากนั้นท่องเที่ยวต่อที่เจพาร์ค ศรีราชา ชอปปิ้งมอลล์อารยธรรมแดนอาทิตย์อุทัยที่มีชื่อเสียง ก่อนเดินทางกลับ โดยได้กำหนดราคาแพกเกจการท่องเที่ยวของสถานีรถไฟศรีราชา อยู่ที่ 430 บาทต่อคน
สถานีที่ 2 ได้แก่ สถานีรถไฟพัทยาเหนือ โดยรถไฟจะเดินทางมาถึงเวลาประมาณ 09.30 น. จากนั้นจะได้เข้าสู่โปรแกรมท่องเที่ยวอุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้ พัทยา ชมสถาปัตยกรรมปราสาทไม้ที่ปราสาทสัจธรรม ต่อด้วยความสนุกสนานที่พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี โรงละครมายากลทักซิโด้ ก่อนเดินทางเยี่ยมชมจุดเซลฟี่ขึ้นชื่อของเมืองพัทยา ที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮาย ตามลำดับ ด้วยราคาแพกเกจการท่องเที่ยวอยู่ที่คนละ 800 บาท สำหรับคนไทย และสำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่คนละ 1,050 บาท
ในส่วนของสถานีรถไฟที่ 3 คือ สถานีรถไฟตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา ได้แบ่งแพกการท่องเที่ยวออกเป็น 3 แบบ คือ แพกเกจ A ถึงสถานีรถไฟตลาดน้ำสี่ภาคเวลา 10.00 น. ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่อที่สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ก อะเมโซน พัทยา สวนน้ำที่ทันสมัยที่สุดอันดับ 1 ของเอเชีย จากนั้นเป็นการท่องเที่ยวทางเรือในตลาดน้ำ และเยี่ยมชมเทวาลัยพระพิฆเนศ และนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่โถงเรือใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางกลับ ราคาแพกเจการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ราคา 830 บาทต่อคน เด็ก 690 บาทต่อคน สำหรับคนไทย ส่วนชาวต่างชาติอยู่ที่ 1,150 บาทต่อผู้ใหญ่ 1 คน ส่วนเด็จจะอยู่ที่ราคา 750 บาทต่อคน เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่คิดค่าบริการ ส่วนด็กอายุระหว่าง 3-12 ปี คิดราคาเด็กเล็ก
แพกเกจ B หลังจากรถไฟถึงสถานีแล้ว เป็นการท่องเที่ยวด้วยเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ก่อนเข้าชมหมู่บ้านวิถีคนเผ่า สักการะเทวาลัยพระพิฆเนศร นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ รับประทานอาหารที่ภัตตาคารจีนเลควิว ก่อนเดินทางมายังไมค์ชอปปิ้งมอลล์ ศูนย์การค้าชื่อดังริมชายหาดพัทยา ตามลำดับ ด้วยราคาแพคเกจ ผู้ใหญ่คนละ 300 บาท เด็ก 250 บาท ชาวต่างชาติคนละ 550 บาท ส่วนเด็กอยู่ที่ 350 บาท และแพกเกจ C โปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงทัศนศึกษาที่เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา นิสิต และสถาบันการศึกษา โดยหลังจากรถไฟเข้าจอดที่สถานีแล้ว เป็นการท่องเที่ยวด้วยเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ชื่นชมหมู่บ้านวิถีชนเผ่า สักการะเทวาลัยพระพิฆเนศ และพระบรมสารีริกธาตุ รับประทานอาหารที่พาพาย่าไพร์ม เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ช่างสิบหมู่ วิทยาลัยในวัง ก่อนเดินทางกลับ ด้วยราคาแพกเกจการท่องเที่ยวอยู่ที่คนละ 300 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก 250 บาทต่อคน
สถานีที่ 4 สถานีวัดญาณสังวราราม ซึ่งจะมีโปรแกรมการท่องเที่ยวชายหาดบางเสร่ บ้านกลับหัว เขาชีจรรย์ และสวนน้ำรามายณะ ด้วยราคาแพกเกจอยู่ที่คนไทย 690 บาทต่อคน เด็ก 590 บาทต่อคน ส่วนชาวต่างชาติอยู่ที่ 990 บาทต่อคน และเด็กอยู่ที่ 790 บาท
สถานีที่ 5 สถานีสวนนงนุช พัทยา พร้อมชื่นชมความงดงามของพรรณไม้นานาชนิด หุบเขาไดโนเสาร์ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และช้างแสนรู้ รับประทานอาหารกลางวันบุฟเฟต์นานาชาติ ก่อนนั่งรถชมสวน ตามลำดับ โปรแกรมการท่องเที่ยวในหนึ่งวันด้วยราคาแพกเกจคนไทยอยู่ที่ 770 บาท ส่วนชาวต่างชาติอยู่ 1,200 บาท
และสถานีสุดท้าย สถานีที่ 6 ได้แก่ สถานีรถไฟบ้านพลูตาหลวง ได้แบ่งโปรแกรมการท่องเที่ยวออกเป็น 4 แพกเกจ คือ แพกเกจที่ 1 เดินทางเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ ก่อนเล่นน้ำทะเลที่หาดนางรำ แพกเกจที่ 2 เยี่ยมชมวิหารหลวงพ่อดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสัตหีบ ก่อนไหว้พระขอพร และลอดโบสถ์ที่วัดช่องแสมสาร จากนั้นเยี่ยมชมฟาร์มปลาการ์ตูน เยี่ยมชมเรือจักรีฤเบศร์ และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล แพกเกจที่ 3 เยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และสุสานเครื่องบิน เยี่ยมชมปูนปั้นสวนบรรพชนสยาม สวนสมุนไพรพรอุดม ก่อนเดินทางกลับ และแพกเกจที่ 4 เมื่อถึงสถานีรถไฟบ้านพลูตาหลวงแล้ว เดินทางไปพักผ่อนยังเกาะแสมสาร เพื่อดำน้ำดูปะการัง และเยี่ยมชมเกาะ ก่อนชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทย ตามลำดับ โดยทั้ง 4 แพกเกจ มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,200 บาทตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้กำหนดราคาแพกเกจโปรแกรมการท่องเที่ยวดังกล่าว เพื่อสร้างความชัดเจนในการดำเนินการ ซึ่งจะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดนำเสนอไปยังผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อขอนุมัติ และจะได้ทำการกำหนดราคาแพกเกจท่องเที่ยวที่รวมค่าเดินทางด้วยรถไฟอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประชุมพิจารณาหาความเหมาะสม และจุดคุ้มทุนต่อไปเร็วๆ นี้