ศูนย์ข่าวศรีราชา - ดีเดย์!! 19 ก.พ.นี้ สายไฟฟ้าลงดินนำร่องพัทยาเหนือล็อตแรก จากถนน 9 เส้น รวม 3,134 ล้านบาท ตามโครงการแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าเมืองใหญ่ ให้เป็นไปตามมติ ครม.ในงบรวม 4 จังหวัดทั่วไทยกว่าหมื่นล้านบาท
วันนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายบุญลือ อึ้งบำรุงพันธ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการก่อสร้างและบริหารโครงการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนหน่วยงานราชการ ตำรวจ ทหาร และภาคเอกชนที่รับสัมปทานรับเหมาโครงการก่อสร้างเคเบิลใต้ดินระบบสายส่ง 115 KV และปรับปรุงระบบจำหน่าย 22 KV เป็นเคเบิลใต้ดิน บริเวณถนนพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
โดยมีจุดประสงค์เพื่อร่วมพิจารณาแผนดำเนินการวางระบบสายไฟฟ้า และระบบประปาลงใต้ดิน รวมทั้งปรับปรุงระบบภูมิทัศน์การจราจร ซึ่งเป็นไปตามแผนโครงการแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าเมืองใหญ่ตามมติ.ครม ใน 4 พื้นที่หลักของประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา และนครราชสีมา ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ระหว่าง พ.ศ.2560-2564 ในงบประมาณกว่า 3,134 ล้านบาท
นายบุญลือ กล่าวว่า ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ได้อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดำเนินโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเมืองใหญ่ เพื่อจัดทำระบบสายไฟฟ้าใต้ดินใน 4 เมืองหลัก ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นคง และความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าที่จะลดปัญหาไฟฟ้าดับ และระนะเวลาไฟฟด้าดับให้น้อยลง รวมทั้งเป็นการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ ส่งเสริมให้เกิดความเสถียรภาพด้านการปฏิบัติและบำรุงรักษา รวมทั้งเรื่องของภูมิทัศน์ที่สวยงาม และมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินในพื้นที่ชุมชนหนาแน่นในเมืองใหญ่
ในส่วนของเมืองพัทยา มีแผนดำเนินการใน 9 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1.ถนนพัทยาเหนือ 2.ถนนพัทยากลาง 3.ถนนสุขุมวิท 4.ถนนพัทยาสาย 1 และพัทยาใต้ถึงท่าเรือบาลีฮาย 5.ถนนพัทยสาย 3 6.ถนนพัทยาสาย 2 7.ซอยเล้งกี่และซอยบัวขาว 8.ถนนพัทยาใต้ช่วงที่ 1 และ 9 ถนนพัทยาใต้ช่วงที่ 2 ซึ่งปัจจุบันดำเนินสำรวจ และออกแบบไปแล้วกว่าร้อยละ 90
สำหรับพื้นที่เมืองพัทยา จะเริ่มล็อตแรก หรือนำร่องบนถนนสายพัทยาเหนือ ซึ่งได้ว่าจ้าง บ.บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เข้ามาดำเนินงาน ในวงเงินรวม 230 กว่าล้านบาท ซึ่งมีแผนการก่อสร้างระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561
ขณะที่ นายธนู สุรชัยลิขวิทย์ หัวหน้าแผนกจัดการโครงการก่อสร้างและบริหารโครงการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 ภาคกลาง จ.ชลบุรี ผู้ดูแลโครงการ ระบุว่า การดำเนินการบนถนนเส้นพัทยาเหนือนี้จะดำเนินการในพื้นที่ความยาวรวมตลอดแนวถนนในระยะ 1,944 เมตร จากแยกสุขุมวิท ถึงวงเวียนปลาโลมา โดยจะมีการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟขนาด 115 KV และ 22 KV รวมทั้งระบบท่อประปาของการประปาส่วนภูมิภาค ขนาดท่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 630 มม.มาตามแนวถนนลึกประมาณ 2.5-3 เมตร ซึ่งแต่เดิมถนนสายนี้จะมีช่องการจราจรข้างละ 3 เลนไปกลับ
โดยรูปแบบการก่อสร้างจะดำเนินการในลักษณะคล้ายกับการวางระบบบนถนนพัทยากลาง ซึ่งพบว่าไม่มีผลกระทบต่อประชาชน และภาพรวมด้านการท่องเที่ยวมากนัก ลักษณะการก่อสร้างจะมีการวางแท่งแบริเออร์ตามแนวตั้งแต่จุดเริ่มโครงการในพื้นที่คราวละ 150-200 เมตร ซึ่งมีการรื้อถอน และขุดเจาะผิวจราจรบริเวณเกาะกลางถนนขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตร ซึ่งจะทำให้ช่องการจราจรบนถนนพัทยาเหนือ เหลือช่องทางวิ่งข้างละ 2 เลน ก่อนจะวางฐานรองรับท่อร้อยสายไฟฟ้าแรงสูง หรือ Duct Bank ทั้ง 2 ขนาด และระบบประปา ซึ่งแต่เดิมในถนนพัทยากลางจะดำเนินการอาทิตย์ละ 5 วัน คือ วันจันทร์-ศุกร์ และจะเปิดให้รถสัญจรตามปกติในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
แต่ด้วยถนนพัทยาเหนือจะมีระบบของการประปาส่วนภูมิภาคเข้ามาดำเนินการร่วมด้วย จึงต้องทำทั้ง 7 วัน ในระยะที่กำหนด ก่อนจะใช้คอนกรีตที่มีความหนาแน่นพิเศษ และแห้งเร็วในระยะเวลา 24 ชม.เพื่อเปิดใช้ตามปกติ และจะขยับเรื่อยไปจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ ซึ่งก็คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-5 เดือน
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ในอดีตที่เคยมีการวางระบบบนถนนพัทยากลาง ถือว่าการทำงานผ่านพ้นไปด้วยดี และมีผลกระทบไม่มากนัก แต่เพื่อความรอบคอบ และลดปัญหาการจราจรที่อาจคับคั่งในวันหยุด เนื่องจากถนนสายนี้จะมีระบบของการประปาส่วนภูมิภาคมาร่วมทำให้ต้องทำงานตลอดทั้ง 7 วัน จึงต้องมีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์ และเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่
รวมทั้งกำหนดมาตรการต่างๆ ที่ชัดเจนเพื่อลดปัญหา ทั้งการติดตั้งป้าย สัญญาณเตือนภัย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการเร่งรัดระยะเวลาการก่อสร้างเพื่อเสร็จให้ทันกำหนด ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า คงไม่มีปัญหาอะไรหากไม่มีพายุฝนตกลงมาจนทำให้งานหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเมืองพัทยาอย่างมาก จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ และอดทน ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมทั้งคืนสภาพ และปรับภูมิทัศน์แล้วถนนพัทยาเหนือก็จะเป็นถนนตัวอย่างที่มีความสวยงาม และจะใช้มาตรการการดำเนินการนี้ไปใช้บนถนนสายอื่นๆ ให้ครบตามแผนต่อไป