xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายตั้ม” คดีหวย 30 ล้านอลเวง ย้ำทำเป็นขบวนการ ครู ยืมมือตำรวจตั้งแต่ต้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - “ทนายตั้ม”ทนายความ"หมวดจรูญ"คู่กรณีชิงหวย 30 ล้านอลเวง ย้ำอีกฝ่ายทำเป็นขบวนการ ครูยืมมือตำรวจตั้งแต่เริ่มต้น ลั่นใช้ทั้งพยานเท็จและอำนาจรัฐ เหตุเพราะโลภหวังฮุบเงินรางวัล ส่วน รอง ผบก.ป.ลงพื้นที่ จ.กาญจน์ แจ้งสื่อขอเวลาทำงานสักระยะ ก่อนเผยความคืบหน้าคดี

จากกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เข้ามาดูแลคดีดังกล่าวแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในคดีโต้แย้งกรรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ จำนวนเงิน 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชเกษียณตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังสี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบพบหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นายปรีชา กับนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น อายุ 58 ปี แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายให้แก่ นายปรีชา โดยนายปรีชา ระบุว่า ตนเองไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 อย่างชัดเจนนั้น

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.พ.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชน และสังคม ทนายฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น และจะเดินทางกลับในวันที่ 9 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ได้โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ว่า “ในที่สุดคดีแก๊งโจรชิงหวยของลุงจรูญที่ถูกดำเนินการมาอย่างบิดๆ เบี้ยวๆ ก็ถูก ผบ.ตร.สั่งให้กองปราบเข้ามารับผิดชอบแทน ภ.7 ต่อจากนี้ประชาชนทั้งประเทศก็ต้องช่วยกันติดตามต่อไปครับว่า ผู้รับไม้ต่อจะสร้างความยุติธรรม และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมไทยได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด

คดีนี้มีผู้คนส่วนใหญ่ล้วนให้ความเห็นพร้อมสรุปว่า ต้องให้ไปจบที่ศาล ต้องให้ศาลเท่านั้นเป็นผู้ตัดสินว่าใครคือเจ้าของหวยที่แท้จริง ผมเองเห็นด้วยครับ แต่ต้องเป็นกรณีที่ครูปรีชา และพยานต้องมั่นใจในพยานหลักฐานของตน และยื่นฟ้องเองต่อศาล จนผ่านกระบวนการไต่สวนมูลฟ้อง คดีมีมูล ศาลประทับรับฟ้อง สืบพยานทั้งฝ่ายคุณลุง และครู แล้วจบที่ศาลตัดสินครับ ถ้าครูใช้วิธีการนี้ผมยอมรับครับ เพราะเป็นวิธีที่ขาวสะอาด ปราศจากข้อสงสัยแน่นอน

แต่วิธีการที่ผ่านมามันไม่ใช่ครับ คดีนี้ครูกลับยืมมือตำรวจเข้ามาจัดการตั้งแต่เริ่มต้น แต่เมื่อวิธีการขู่ปลอบไม่สำเร็จ ก็หันไปเล่นวิธีอื่นแทน จะยังไงก็ขอถูไถไปให้ได้ เพราะฝ่ายตนกุมทั้งคน และเอกสารสำนวนไว้ในมือ และทีมครูก็กะโยนภาระให้พนักงานอัยการ และศาลพิจารณา โดยกะวัดดวงซึ่งถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าชนะก็ถือว่าส้มหล่น ในใจครูกับพวกคงหวังลึกๆ ว่าโชคคงเข้าข้างฝ่ายตนอยู่บ้างเพราะคิดว่ามีตัวช่วยเหลือเฟือ กองหลังก็เพียบ ทั้งพยานบุคคล และอำนาจเจ้าหน้าที่รัฐ

ดังนั้น ความบิดเบี้ยวของคดีมันก็เลยเกิดขึ้น เพราะหากคนทำสำนวนร่วมมือกันเล่นแร่แปรธาตุ นำพยานหลักฐานเท็จเข้าสู่สำนวนการสอบสวน แล้วตัดพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้ามออก แค่นี้ก็เข้าทางครู และพวกแล้วครับ

ผมขอถามกลับไปยังทั้งผู้รู้ และไม่รู้กฎหมายที่พากันยิงคำถามดังกล่าวมาที่ผมหน่อยครับว่าคดีคุณลงจรูญ ที่ง่ายแสนง่าย และไม่ซับซ้อนอะไรเลย จำเป็นที่จะต้องนำขึ้นสู่ศาล มาเป็นคดีที่รกศาล เสียงบประมาณของทางราชการกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยหรือครับ ถ้าทุกฝ่ายทำกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเที่ยงธรรม คดีนี้เริ่มต้นก็มีพิรุธแล้วครับซึ่งเป็นที่รู้ๆ กัน แต่เอาล่ะในเมื่อตำรวจก็เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม และครูก็มีสิทธิที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้อื่นเมื่อเห็นว่าตนเองถูกละเมิด (ซึ่งครูกับพวกจะต้องรับผิดชอบในการกระทำด้วยเช่นกันหากเป็นเรื่องเท็จ) และเมื่อรับแจ้งแล้ว ตำรวจที่รับผิดชอบได้รวบรวมพยานหลักฐานด้วยใจที่บริสุทธิ์หรือไม่ เรื่องนี้ผมไม่จำเป็นต้องตอบเพราะไม่ใช่หน้าที่ของผม

แต่ผู้มีหน้าที่ย่อมรู้ตัวดีว่าได้ทำอะไรไปบ้าง ครูยืมมือตั้งแต่มีการเรียกคุณลุงไปพบทั้งที่โรงพักและที่บ้านพัก วันนั้นถ้าคุณลุงเป็นมิจฉาชีพจริงก็คงยอมวินวินไปแล้ว แต่เมื่อคุณลุงไม่ยอมก็เลยหาเรื่องลามปาม ทำสารพัดวิธี จะเพื่อข่มขู่ หรือบีบ หรือต่อรอง หรือเพื่ออะไรนั้นผมคงไม่ต้องอธิบาย และเมื่อผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาก็ไม่ยอมรับกันอีก ยังดึงดันที่จะเดินหน้าต่อโดยการขุดพยานที่โผล่จากในหลุมมาแบบไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ยมาช่วยกันเสริมแต่งให้เนียน

ซึ่งเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และใช้ความเป็นเหตุเป็นผลประกอบแล้ว พยานหลักฐานเหล่านี้หรือครับที่จะมีน้ำหนักมาใช้แจ้งข้อกล่าวหาแก่คุณลุง แค่พยานหลักฐานที่อ่อนปวกเปียกอย่างนี้หรือครับที่ตำรวจจะกล้าสั่งฟ้องให้ผ่านพนักงานอัยการจนไปถึงศาล

ภาระพิสูจน์ว่าครูเป็นเจ้าของหวยขาวสะอาดแค่ไหน คดีนี้ต่อให้คุณลุงบอกว่าซื้อจากแม่ค้า ก. ผมว่าเขาก็คงปฏิเสธทุกแผงตั้งแต่แม่ค้า ก.จนถึง ฮ.แน่ เพราะคุณลุงไม่ใช่พวกเขา เขาตั้งธงไว้แล้ว แม้คุณลุงจะหาพยานหลักฐานอะไรมาเขาก็คงไม่ฟังแน่ ผมก็เลยปักธงว่า ภาระการพิสูจน์ต้องอยู่ที่ครู ที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหวยที่ครูอ้างนั้นเป็นของครูจริงๆ โดยปราศจากข้อสงสัย และต้องพิสูจน์ด้วยว่าคุณลุงไปลักขโมย ยักยอก หรือรับของโจรจากใครด้วยวิธีการใด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีพิสูจน์ฝ่ายผู้กล่าวหาด้วย และตรงกับตัวบทกฎหมายที่คนส่วนใหญ่มองข้ามกัน เพราะส่วนใหญ่เข้าใจผิดและคิดอยู่อย่างเดียวว่า ผู้ถูกกล่าวหาต้องหาพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาแต่เพียงฝ่ายเดียวให้ได้ เมื่อหาไม่ได้ก็ต้องสั่งฟ้องลูกเดียว ผมเห็นว่าวิธีการนี้น่าจะมีการปรับแนวคิดได้แล้วครับ

โดยเฉพาะตำรวจที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม คุณครู กับพวกย่ามใจคิดว่าตนเองเป็นต่อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะตั้งประเด็นคำถามให้ครู และพยานตอบ ผมจะถามโดยที่คุณลุงไม่จำเป็นที่จะออกอาวุธอะไรเลย ผมจะยึดตัวบทกฎหมายให้ครูกับพวกพิสูจน์พยานหลักฐานฝ่ายตนจนปราศจากข้อสงสัย แล้วมาลองดูกันว่าอย่างนี้หรือที่จะมาแจ้งข้อกล่าวหา และจะมาสั่งฟ้องคุณลุง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 143/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อขอพบ นายปรีชา ใคร่ครวญ เพื่อขอสัมภาษณ์ถึงกรณีหลักฐานที่ปรากฏเป็นคลิปเสียงตามที่เป็นข่าวว่าทางกองปราบได้หลักฐานมา

โดย นายปรีชา ตอบคำถามขอผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า “คุณครูไม่รู้เรื่องคลิปแต่อย่างใด จะไปเอามาจากไหนคุณครูไม่ทราบ โดยเชื่อมั่นใจว่า ไม่มีผลต่อครู และว่าครูยังไม่รู้อะไร ไม่ทราบอะไร แต่ไม่หนักใจกรณีที่กองปราบได้นำหลักฐานออกมาเปิดเผย ล่าสุด ทางกองปราบก็ยังไม่ได้ติดต่อคุณครูมา อย่างไรก็ตาม หากกองปราบจะงัดหลักฐานอื่นๆ ออกมาอีกก็ขอให้นำออกมา พร้อมย้ำว่า คุณครูไม่ได้หวั่นวิตกแต่อย่างใด” จากนั้นก็กล่าวขอบคุณผู้สื่อข่าว และรีบขับรถออกไปทันที โดยบอกว่า จะรับไปสอนหนังสือ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายให้แก่ ครูปรีชา ซึ่งปกติจะมาตั้งแผงขายประจำอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของ ธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรี ส่วน น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช อายุ 53 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายลอตเตอรี่ให้แก่ นางรัตนาพร ซึ่งปกติจะตั้งแผงขายตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรี ปรากฏว่า วันนี้ทั้ง 2 คน ไม่ได้มาตั้งแผงขายสลากแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งสอบปากคำพยานทั้งผู้ค้าสลากในตลาดเรดซิตี้ พยานที่อ้างว่า นายปรีชา พบสลากเลข 26 ในกระเป๋าเสื้อ และพยานที่อ้างว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ เก็บลอตเตอรี่ได้ รวมทั้งพยานและจุดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เป็นความลับ

โดย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์เพียงสั้นๆ ว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน ไม่สามารถตอบคำถาม หรือให้ข้อมูลใดๆ ได้ในตอนนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่ได้มีเวลาทำงานสักระยะหนึ่งก่อน




กำลังโหลดความคิดเห็น