ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรณีตัวอย่าง เหตุคนขับรถทัวร์ฉายา “วิคเตอร์วัน” ไลฟ์สดการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จนถูกแจ้งความเอาผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถึงขั้นส่งฟ้องศาล ด้าน ตร.เตือนประชาชนหากนำสิ่งไหนไม่ถูกไม่ควรเผยแพร่ในโลกออนไลน์มีสิทธิถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (6 ก.พ.) พ.ต.ต.ฐิติวัสต์ บุญอ่อน สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้นำตัว นายธนวัช ตะราชี ฉายา “วิคเตอร์วัน” อายุ 46 ปี มาทำการสอบสวนตามหมายจับศาล ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมส่งศาลดำเนินคดี
การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากวันที่ 18 เม.ย.2560 ที่ผ่านมา นายธนวัช ตะราชี ได้ขับรถทัวร์นำนักท่องเที่ยวชาวจีนไปตามถนนสาย 7 และได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย” จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น และ นายธนวัช ได้ทำการถ่ายทอดสดผ่านโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งนำคลิปวิดีโอดังกล่าวลงเผยแพร่ในช่องทางยูทูป โดยใช้หัวข้อว่า “รถทัวร์จีน vs ทางหลวง ข้อหาไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย EP.1-3”
จากนั้นในวันที่ 1 พ.ค.2560 ด.ต.สุวโรจน์ ชนะเอม ผู้บังคับหมู่ทางหลวงเขาเขียว ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายธนวัช ตะราชี ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา กระทั่งนำสู่การติดตามจับกุม นายธนวัช ตะราชี เมื่อคืนวันที่ 5 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวน และส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีในทันที
เบื้องต้น นายธนวัช ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอประกันตัวในชั้นศาลเพื่อสู้คดี โดยมีกลุ่มเพื่อนในเพจต่างๆ ให้กำลังใจ
ด้าน พ.ต.ต.ฐิติวัสต์ บุญอ่อน เผยว่า กรณีดังกล่าว ด.ต.สิวโรจน์ ชนะเอม ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายธนวัช ว่า ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เนื่องจากผู้ต้องหาใช้ถ้อยคำว่า “อย่างนี้คุณแกล้งจับผมใช้มุกเดิมๆ กลั่นแกล้งประชาชน คราวนี้ผมเอาคุณถึงพริกถึงขิงแน่ๆ” และยังถ่ายทอดสดผ่านโทรศัพท์มือถือจนทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ และศาลได้อนุมัติออกหมายจับ ฐานความผิดโพสต์ลงข้อมูลในยูทูป ดังกล่าว
“ฝากเตือนประชาชนด้วยว่า ขณะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจไม่ได้ห้ามในการถ่ายภาพ แต่หากสิ่งไหนไม่ถูกไม่ควรแล้วเอาไปลงเผยแพร่ในยูทูปก็จะทำให้ตำรวจได้รับความเสียหาย ส่วนตัวผู้เผยแพร่ข้อมูลก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้” พ.ต.ต.ฐิติวัสต์ กล่าว
ขณะที่ นายสมพร พันพิทักษ์ แอดมินเพจ “เพื่อนกันรถบรรทุกรักความยุติธรรม” เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่การหมิ่นที่ร้ายแรง แต่เป็นเพียงการถ่ายทอดสดผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหามาก็ต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล และขอฝากเตือนประชาชนที่กำลังจะโพสต์ข้อความใดๆ ขอให้ดูในลายละเอียด เพราะว่าในความคิดส่วนตัวอาจมองว่าไม่ผิด แต่เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ไปแล้วก็อาจจะต้องมีมุมของกฎหมาย และ พ.ร.บ.คอมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องได้
“ส่วนเหตุการณ์ของ คุณธนวัช ในมุมมองของผมในฐานะประชาชน ก็มองว่า ถูกกลั่นแกล้ง เพราะคุณธนวัช ต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาโดยตลอด และมีการไลฟ์สดเป็นประจำขณะที่เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ เพราะฉะนั้น คุณธนวัช ก็พร้อมไปต่อสู้ อยู่ที่ศาลท่านว่าจะพิจารณาเป็นเช่นไร” นายสมพร กล่าว
