ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์วิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล พร้อมเลี้ยงขันโตกสัตว์นานาชนิดเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 12 ปี ทั้งผู้นำชุมชน, ชาวบ้าน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น
วันนี้ (6 ก.พ. ) ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ร่วมกับวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองควาย, ตำบลแม่เหียะ, ตำบลสุเทพ และตำบลบ้านปง พร้อมผู้นำชุมชน ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลเมืองแม่เหียะ เทศบาลตำบลหนองควาย เทศบาลตำบลสุเทพ เทศบาลตำบลบ้านปง และสมาชิกสี่ล้อแดง จัดขันโตกบุฟเฟต์อาหารสร้างความสุขให้แก่สรรพสัตว์ เนื่องในวันครบรอบ 12 ปี และก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยมี พลเอก เจน คีรีทวีป ประธานที่ปรึกษาคณะทำงานประชารัฐขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธาน
นางเนตรนภา สุทธิธรรมดำรง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นวันครบรอบการเปิดให้บริการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยในปีนี้นับเป็นวันครบรอบ 12 ปี และก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จึงได้ร่วมกับวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล ผู้นำชุมชน และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลเมืองแม่เหียะ เทศบาลตำบลหนองควาย เทศบาลตำบลสุเทพ และสมาชิกสี่ล้อแดง จัดขันโตกบุฟเฟต์อาหารสร้างความสุขให้แก่สรรพสัตว์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสานสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่มีความผูกพันกันมายาวนานกว่า 12 ปี และเพื่อเป็นการตอบแทนและระลึกถึงสรรพสัตว์ต่างๆ
ทั้งนี้ ในปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีสัตว์จำนวนทั้งสิ้น 140 ชนิด รวม 1,300 ตัว และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้มอบปุ๋ยชีวภาพจากมูลสัตว์ให้แก่ผู้นำชุมชนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล จำนวน 99 ถุง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพเกษตรกรรมแก่วิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล และเพื่อนำผลผลิตที่ดีมาสู่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีต่อไป และในรอบ 12 ปีที่ผ่านมาของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีผู้เข้าชมจำนวนกว่า 8,500,000 คน
สำหรับบรรยากาศในงานขันโตกบุฟเฟต์อาหารสร้างความสุขให้แก่สรรพสัตว์ เนื่องในวันครบรอบ 12 ปี และก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้มีการจัดขันโตกบุฟเฟต์อาหารให้แก่สัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะช้าง 5 เชือก ได้แก่ พังลินดา, พังแป้น, พังเอ๋, พังลำดวน และพังน้ำหวาน นอกจากนี้ได้จัดงานบุญ และจัดกิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ภายในองค์กร และชุมชนอีกด้วย