จันทบุรี - รมว.พลังงาน ตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร จ.จันทบุรี และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอเนกประสงค์ขนาดกลาง ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ใน ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง และ ต.ปัถวี อ.มะขาม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (5 ก.พ.) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะได้เดินทางตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร จ.จันทบุรี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอเนกประสงค์ขนาดกลาง ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง และ ต.ปัถวี อ.มะขาม ซึ่งเป็นภารกิจก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการภาคตะวันออก
สำหรับโครงการคิรีธาร ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2529 โดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดโครงการ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2531 และพระราชทานชื่อว่า “เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร” ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา โครงการคิรีธารถือเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กที่ให้ประโยชน์ทางด้านการผลิตไฟฟ้าเป็นสำคัญ มีส่วนเพิ่มปริมาณน้ำในลำน้ำจันทบุรี เป็นประโยชน์ต่อการเกษตร และเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับการประปาในอำเภอเมืองจันทบุรี
โดยสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 27 ล้านหน่วย ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรมในเขตจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ประมาณ 35,000 ไร่ จากน้ำซึ่งใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วจะไหลลงสู่แม่น้ำจันทบุรี ส่วนการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จำนวน 7 สถานี และฝายยางกั้นลำน้ำจันทบุรี ในเขตอำเภอเมือง สูบน้ำส่งให้แก่เกษตรกรทั้งสองฝั่งลำน้ำในฤดูแล้ง ช่วยแก้ปัญหา ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และขับไล่น้ำเค็มในฤดูแล้งของลุ่มน้ำจันทบุรี ในเขตจังหวัดจันทบุรี
รวมทั้งยังช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียกำลังไฟฟ้าในระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของประเทศ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน โครงการพลังน้ำคิรีธาร สามารถผลิตไฟฟ้ารวมได้ทั้งสิ้น 847 ล้านหน่วย มีการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบ และสามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,600 ล้านบาท
ส่วนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล อ.เขาคิชฌกูฏ เป็นโครงการที่มีความพร้อมด้านเทคนิคแล้วแต่ติดขัดเรื่องของระเบียบของทางราชการที่ต้องบูรณาการความร่วมมือแก้ไขระเบียบ กฎหมายที่ติดขัดให้ลุล่วงบรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งถ้าหากโครงการพลังน้ำคลองทุ่งเพล เดินเครื่องจักรได้จะสามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรครอบคลุม 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.พลวง และ ต.ตะเคียนทอง ต.วังแซ้ม และ ต. ฉมัน ในเขต อ.มะขาม รวมทั้งสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังน้ำ ได้ประมาณปีละ 28.16 ล้านหน่วย และช่วยลดการสูญเสียในระบบสายส่งไฟฟ้า และเสริมสร้างความมั่นคงในระบบสายส่งของประเทศ