ราชบุรี - เจ้าของรีสอร์ตไร่ภูรัก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ออกมาขอโทษที่ไล่ลูกค้าออกกลางดึก พร้อมชี้แจงเป็นเหตุเข้าใจผิด และเป็นระเบียบของทางรีสอร์ตที่ต้องขอดูบัตรประชาชนก่อนเข้าพัก
จากกรณีทีมีเพจของแหม่มโพธิ์ดำได้โพสต์ข้อความ # เตือนภัย # ลูกเจ้าของรีสอร์ตเมายับ ไล่แขกหมดรีสอร์ตกลางดึก พร้อมกับมีข้อความที่มีผู้เข้าไปพักที่รีสอร์ตไร่ภูรัก ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 185 หมู่ 1 ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้แชร์ประสบการณ์อันเลวร้าย ว่า เข้าไปพักที่รีสอร์ตดังกล่าวโดยไม่ได้จองล่วงหน้าเพราะคิดว่าไม่ใช่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว คนน้อยคงไม่มีปัญหาอะไร (แต่โทร.ไปก่อนแล้ว) รีสอร์ตสวยมากครับมีที่ถ่ายรูป บรรยากาศดีมาก คุณลุงที่ดูแลนิสัยดีมากครับเป็นกันเอง มีคนพักอยู่ 3 หลัง เกือบจะไปได้สวยแล้วครับ
พอถึง 2 ทุ่ม มีรถลูกชายลุงขับเข้ามาไวมาก พอจอดรถลงมาเอะอะโวยวายน่าจะเมา ด่าลุงบอกว่า กูบอกแล้วใช่มั้ยไม่ให้รับขาจร ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ไปเอาบัตรพวกมันมาดูดิ๊ ลุงแกก็เดินมาขอบัตร ซึ่งก็ได้ให้พี่เขยแฟนคุย มันดูเสร็จมันบอกว่า คุณพร้อมที่จะออกจากรีสอร์ตมั้ย ผมจะคืนเงินให้ เท่านั้นแหละพวกผมเก็บของออกจากรีสอร์ตเลยครับ เสียความรู้สึกมากไล่ลูกค้าตอน 2 ทุ่ม ทางก็เปลี่ยวมาก แย่สุดๆ ถ้าไม่พร้อมก็ปิดไปเถอะครับรีสอร์ต
สรุป ลูกค้าโดนไล่ออกหมดครับ 3 หลัง หลังที่ 1 ครอบครัวผม มีเด็ก 2 คนไม่สบาย1 คน มีแม่แฟน พี่สาวแฟน พี่เขยแฟน หลังที่ 2 มากับแฟน มีเด็ก 3 คน หลังที่ 3 มากัน 2 คน โดนขว้างขวดใส่เต็นท์ ขอบคุณมากครับที่รับฟัง >< #พี่ทำแบบนี้พี่ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วยนะครับ ทำให้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 3 ก.พ.61 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่รีสอร์ตไร่ภูรัก เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้พบกับ นายคาววี บัวขาว อายุ 33 ปี เจ้าของรีสอร์ตดังกล่าว ก็ได้ออกมาขอโทษลูกค้าที่มาเข้าพัก พร้อมกับบอกว่า ที่ผ่านมาทางรีสอร์ตก็มีระเบียบว่าลูกค้าที่มาเข้าพักนั้นจะต้องแสดงตัวตนที่ชัดเจน และจะต้องแจ้งว่ามาพักกี่ท่านเพื่อที่ทางรีสอร์ตจะได้ดูแล และให้การต้อนรับ แต่ลูกค้ารายนี้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และเมื่อขอดูบัตรประจำตัวก็ไม่พอใจ และยังบอกว่าจะแชร์ให้รีสอร์ตนั้นเสียหายด้วย
จากนั้นลูกค้าก็เดินกลับห้อง ประกอบกับในช่วงนั้นตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับเพื่อน ซึ่งอาจจะเสียงดังไปหน่อยจึงอาจจะทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด และขนของออกจากที่พักไปเลย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอาจจะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่การท่องเที่ยวของ อ.สวนผึ้ง ตนก็ต้องขอโทษ และขอโทษลูกค้าด้วย แต่ไม่ได้มีเจตนาจะไล่ลูกค้าออก เพียงแต่แค่ขอดูบัตรที่สามารถแสดงตัวตนได้เท่านั้น
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาเคยถูกลูกค้าที่เข้าพัก และไม่แสดงตัวตนอะไรเลย พอถึงช่วงเช้าลูกค้าเก็บของออกไปไม่ได้จ่ายเงิน จึงไม่รู้ว่าจะไปตามเก็บที่ใคร ทำให้เกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งทุกรีสอร์ตก็มีระเบียบแบบนี้เกือบทั้งนั้น และยืนยันว่า ตนไม่คิดจะเอาเรื่องอะไรกับลูกค้า เพราะอยากอยู่นิ่งๆ มากกว่า และขณะนี้ก็มีลูกค้าจองผ่านแอปพลิเคชันมาจำนวนมากจนห้องเต็มหมดแล้ว จึงไม่อยากพุดอะไรมาก