xs
xsm
sm
md
lg

วอนช่วย! เด็ก ป.4 โคราชยากจนพ่อทิ้ง เคราะห์ซ้ำรถชนแม่ตายเจ้าตัวสาหัส เหลือเพียงยาย 74 ปีดูแล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวิเชียร จันทรโณทัย และคณะ รุดเยี่ยมช่วยเหลือ “น้องฮาร์เล่ย” เด็ก ป.4 ร.ร.อนุบาลนครราชสีมา ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส นอนรักษาอยู่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ส่วนแม่เสียชีวิตคาที่เหลือเพียงยายคอยดูแล วันนี้ ( 5 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! “ผู้ว่าฯ โคราช” นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รุดเยี่ยมช่วยเหลือ “น้องฮาร์เล่ย” เด็ก ป.4 ร.ร.อนุบาลนครราชสีมา ประสบอุบัติเหตุรถชน จยย.บาดเจ็บสาหัสสมองบวม กะโหลกร้าว แม่เสียชีวิตคาที่ขาดเสาหลักครอบครัว ส่วนพ่อทอดทิ้งไปตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล เผยฐานะยากจน ชีวิตแสนรันทด เหลือเพียงยายวัย 74 ปี รับภาระเลี้ยงดูมีรายได้แค่เบี้ยยังชีพคนชราเท่านั้น วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

วันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 13.30 น. ที่ห้องอายุรกรรมเด็ก ชั้น 4 อาคาร 8 ชั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ตัวแทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา คณะครูจากโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา นำโดย นายชมนาท รุ่นใหม่ รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา เดินทางเข้าเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือ ด.ช.อภิลักษณ์ หรือน้องฮาร์เล่ย์ ทรัพย์ไพศาลสิน อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/6 (ป.4/6) โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาเหตุทางสมอง นอนพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล และแม่ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ นายวิเชียรได้มอบเงินส่วนตัวจำนวน 5,000 บาท ช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้น และทางเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบเงิน 5,000 บาท พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ นอกจากนี้ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบเงินช่วยเหลืออีก 3,000 บาท และได้ให้การช่วยเหลือเป็นรายเดือนๆ ละ 2,000 บาท จนกว่า ด.ช.อภิลักษณ์จะอายุครบ 18 ปี

นายวิเชียรกล่าวว่า จากการสอบถามอาการทางคณะแพทย์ที่ให้การรักษาเด็กทราบว่า เด็กมีภาวะสมองบวม กะโหลกร้าว มีแผลบริเวณคิ้ว ขอบตาเขียว ส่วนตามร่างกายไม่พบบาดแผล อาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี สมองอาจได้รับความกระทบกระเทือนแต่ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่น่ากังวล เนื่องจากเด็กตอบสนองดี ขยับแขนขยับขาได้ปกติ แผลชั้นนอกใช้เวลารักษาประมาณ 1 เดือน แต่กะโหลกชั้นในอาจใช้เวลารักษาอย่างน้อย 3 เดือน แต่เนื่องจากเด็กอาศัยอยู่กับคุณยายอายุเกือบ 80 ปี ไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลัก มีรายได้จากเงินเบื้ยยังชีพผู้สูงอายุเท่านั้น ฉะนั้นเราจึงใช้เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวนี้เดือนละ 2,000 บาท จนกว่าเด็กจะอายุ 18 ปี เพื่อให้น้องสามารถอยู่กับคุณยายและครอบครัวได้

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมายังระดมรับบริจาคเงินจากครู นักเรียน และผู้ปกครอง มามอบให้การช่วยเหลืออีกกว่า 2.5 แสนบาท จากนี้ไปคงจะหารือกับคณะครูในการเข้ามาช่วยดูแลเงินจำนวนดังกล่าว ส่วนทางคดีจะติดตามให้อีกครั้ง และขณะนี้ยังไม่มีใครแจ้งให้เด็กทราบว่าแม่ได้เสียชีวิตแล้ว เพราะอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บได้

“ครอบครัวเด็กน่าสงสารมาก เพราะเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ อาศัยอยู่กับแม่และยายซึ่งอายุมากแล้ว ส่วนพ่อได้แยกทางกับแม่ไปตั้งแต่ลูกเรียนอยู่ชั้นอนุบาล หากไม่ได้รับการช่วยเหลือเด็กคงลำบากมาก ฉะนั้นต้องช่วยกันติดตามดูแลเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดไปให้ได้ ซึ่งทางจังหวัดเราจะดูแลต่อไป” นายวิเชียรกล่าว
 ผอ.โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา เข้าเยี่ยมอาการ
สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลอุบลรัตน์ ขณะที่นางวลัยลักษณ์ แพทยารักษ์ อายุ 43 ปี ผู้เป็นแม่ กำลังขับขี่จักรยานยนต์ไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมาโดยมี “น้องฮาร์เล่ย์” นั่งซ้อนท้าย ขณะขับมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายอย่างรุนแรงทำให้นางวลัยลักษณ์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วน “น้องฮาร์เล่ย์” ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

โดยครอบครัวของ “น้องฮาร์เล่ย์” ฐานะค่อนข้างยากจน พักอาศัยอยู่บ้านเช่าในชุมชนสืบศิริ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา แม่มีรายได้จากการขายเมี่ยงคำวันละไม่กี่ร้อยบาท และเลิกรากับพ่อ “น้องฮาร์เล่ย์” ตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล นางวลัยลักษณ์จึงเป็นเสาหลักของครอบครัว

ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือ “น้องฮาร์เล่ย์” ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่นายชมนาท รุ่นใหม่ รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ 08-19778635 หรือสามารถบริจาคผ่านบัญชี โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 301-1-19476-9 ได้
จุดเกิดเหตุ




กำลังโหลดความคิดเห็น