กาฬสินธุ์ - พบรอยพระพุทธบาทคู่กลางป่าบ้านโพนสวาง อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เผยชาวบ้านในพื้นที่ค้นพบมากว่า 100 ปีแล้ว พร้อมชงเรื่องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ด้านคณะสงฆ์และหน่วยงานในพื้นที่พร้อมพัฒนาให้เป็นพุทธสถานและแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธสถานในอนาคต
วันนี้ (4 ก.พ. ) ที่บริเวณที่พักสงฆ์บ้านโพนสวาง ตำบลนามะเขือ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พระครูสิริพัฒน์นิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์, นางสมประสงค์ สุพัฒนาพงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลนามะเขือ, นายจิรศักดิ์ จราฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านโพนสวาง เข้าตรวจสอบและสำรวจการพบรอยพระพุทธบาทโบราณที่ค้นพบมาเกือบ 100 ปี พร้อมเข้าสอบปากคำชาวบ้านเพื่อเก็บบันทึกหลักฐานรวบรวมส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพื้นที่ พบว่าชาวบ้านได้ระดมทุนสร้างศาลาคลุมไว้เพื่อรักษาร่องรอยพระพุทธบาทที่ปรากฏบนพื้นหินโดยมีลักษณะคล้ายเท้ามนุษย์ขนาดใหญ่ 2 รอยที่เห็นเด่นชัด โดยรอยพระพุทธบาทแรกมีความยาว 49 ซม. กว้าง 25 ซม. ห่างออกไปประมาณ 189 ซม.พบอีกรอยพระพุทธบาท มีความยาว 47 ซม. ความกว้าง 25 ซม. ที่ผ่านมาเคยมีคนพยายามสกัดรอยพระพุทธบาทออกไปแต่ไม่สามารถทำได้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีอายุใกล้เคียงกับพระพุทธไสยยาสน์ (พระนอน) ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
พระครูสิริพัฒน์นิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า มีการพบรอยพระพุทธบาทมานานเกือบ 100 ปีแล้ว เดิมเป็นพื้นที่ป่าท้ายไร่ปลายนา มอบที่ดินให้เป็นที่สาธารณะสร้างที่พักสงฆ์เพราะมีพระสงฆ์ธุดงค์มาพักบ่อย ขณะเดียวกันจุดที่พบรอยพระพุทธบาทนี้เป็นจุดกึ่งกลางเส้นทางระหว่างพระพุทธไสยยาสน์ภูค่าว (ตะแคงซ้าย) และพระพุทธไสยยาสน์ภูปอ เบื้องต้นคณะสงฆ์ อ.สหัสขันธ์ พร้อมให้ความร่วมมือพัฒนาและสนับสนุนให้เป็นเส้นทางพุทธศึกษา ร่วมกันพัฒนาเพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาและเรียนรู้ถาวรวัตถุ และช่วยกันปกป้องรักษาต่อไป
นางสมประสงค์ สุพัฒนาพงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลนามะเขือ กล่าวว่า มีเรื่องเล่าจากสมัยปู่ย่าตายายถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่พบรอยพระพุทธบาท ในยามรุ่งเช้าชาวบ้านมักจะเห็นลำแสงสีทองพุ่งไปทางทิศใต้ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยยาสน์ภูปอ รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่พบเจอกับตัวเองทั้งการบนบานและขอพรได้สำเร็จ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาทคู่ของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ไว้ให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ทั้งนี้ ได้ส่งให้นักวิชาการระดับตำบลเข้าสอบปากคำชาวบ้านและรวบรวมข้อมูล เพื่อนำส่งไปยังนายอำเภอสหัสขันธ์เพื่อประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญให้มาตรวจสอบต่อไป นอกจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีแผนพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้คนทั่วโลกรู้จัก ต.นามะเขือมากขึ้นด้วย