xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงจรูญ” มาตามนัด กางกระดาษอ่านคำสาบานหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - “ลุงจรูญ” มาตามนัด กางกระดาษอ่านคำสาบานหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ท่ามกลางกองเชียร์เพียบ ส่วน “เจ๊เกียว” ลุยเดี่ยวเผชิญหน้าร่วมสาบานด้วย ส่วนชาวบ้านเชื่อ “กรรมใคร กรรมมัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ พร้อมด้วยนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา เปิดบ้านพักส่วนตัวเลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัยวังสารภี หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาว่าจะพาครอบครัวมาสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถ.หลักเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองกาญจนบุรี ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ก.พ. 61) เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าตนเองเป็นผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ และเป็นผู้ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท โดยไม่ได้ไปเก็บของที่ตกหล่นมา ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ก.พ.) ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ พร้อมด้วยนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา และลูกสาว ได้เดินทางมาสาบานตนต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตามที่เคยได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยมีนายศุภกร สุพรรณรังษี ทนายความ ตัวแทนของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชน และสังคม พร้อมทีมงานร่วมเดินทางมาด้วย ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนทุกแขนงที่มารอนำเสนอข่าวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดู รวมทั้งมีบรรดาญาติ และเพื่อนๆ รวมทั้งกองเชียร์ของ ร.ต.ท.จรูญ ได้เดินทางมามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ครอบครัวของ ร.ต.ท.จรูญ เป็นจำนวนมากเช่นกัน

โดยเมื่อ ร.ต.ทจรูญ พร้อมภรรยาและลูกสาวเดินทางมาถึง ได้ไปจุดธูปพร้อมกับท่องคำกล่าวบูชาสักการะองค์พระหลักเมือง จากนั้นก็ได้อ่านคำสาบานที่ร่างเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้บนกระดาษอย่างเสียงดังฟังชัดว่า “ด้วยข้าพเจ้า นายจรูญ วิมูล ขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก และขอสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกาญจนบุรี ว่าในฐานะที่ข้าฯ เคยรับใช้แผ่นดินไทยด้วยความซื่อสัตย์และซื่อตรง หากข้าไปขโมยลอตเตอรี่ใครมาอย่างที่ถูกกล่าวหาจริง ขอให้ข้าฯ ไม่ตายดี ครอบครัวญาติพี่น้องฉิบหายวายป่วง ลูกหลานสาปแช่งให้ชีวิตล่มจม เจอแต่ความหายนะไปตลอดชีวิต ไม่มีความสุข ทนทุกข์ทรมาน ตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดทั้งครอบครัว และขอให้ถูกสังคมประณามหยามเหยียดเป็นที่รังเกียจของคนในสังคม รวมไปถึงอาชีพการงานของครอบครัวล่มจม ไม่เจริญ หมดเนื้อหมดตัว เปรียบได้ดั่งขอทานข้างถนน ล้มป่วยทรมานไปทั้งชีวิต

แต่หากข้าฯ กล่าวความจริงมาโดยตลอด ไม่ได้ไปขโมยลอตเตอรี่ใครมา และเป็นผู้โดนรังแกอย่างที่เกิดขึ้น ขอให้ข้าฯ ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน เอาชนะหมู่มารได้โดยเร็ว ความสุข ความเจริญทั้งหลายทั้งปวง สุขภาพแข็งแรง อาชีพการงานเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเงินทอง จงเกิดขึ้นแก่ข้าฯ และครอบครัว ลูกหลาน ญาติพี่น้อง มิตรสหายทุกคน และประชาชนทุกๆคนที่เป็นกำลังใจให้แก่ข้าด้วยเทอญฯ”

ร.ต.ท.จรูญกล่าวคำสาบานต่อว่า และขอสาปแช่ง หากผู้ที่มากล่าวอ้างว่าลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิการยน 2560 หายแล้วไม่ได้หายจริงๆ พยานทุกๆ คนที่มิได้รู้เห็นถึงการซื้อลอตเตอรี่เลข 533726 แต่กลับมาเป็นพยานว่าเห็นให้กับผู้ที่อ้างว่าลอตเตอรี่ของตนหาย และนายตำรวจที่เรียกข้าพเจ้าไปเจรจาที่บ้านพักถ้าหากมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ รวมไปถึงตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้กระทำการที่ไม่เป็นกลาง กลั่นแกล้งข้าฯ หรือแม้แต่มีผู้คิดร้าย คิดทำลายข้าฯ คิดกลั่นแกล้ง สร้างเรื่องโกหก สร้างความเท็จ พยานเท็จต่างๆ เพื่อที่หวังผลประโยชน์ในลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวเลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560

“ขอให้บุคคลเหล่านั้น ไม่ตายดี ครอบครัว ญาติพี่น้องฉิบหายวายป่วง ลูกหลานสาปแช่งให้ชีวิตล่มจม เจอแต่ความหายนะไปตลอดชีวิต ไม่มีความสุข ทนทุกข์ทรมาน ตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ทั้งครอบครัว และขอให้ถูกสังคมประณามหยามเหยียดเป็นที่รังเกียจของคนในสังคม รวมไปถึงอาชีพการงานของครอบครัวล่มจม ไม่เจริญ หมดเนื้อหมดตัว เปรียบได้ดั่งขอทานข้างถนน ล้มป่วยทรมานไปทั้งชีวิต สุดท้ายต้องจบชีวิตในคุก”

ร.ต.ท.จรูญกล่าวคำสาบานต่ออีกว่า แต่หากบุคคลที่ข้าฯกล่าวถึงเป็นคนที่พูดความจริงมาโดยตลอด เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่โกหก ไม่สร้างเรื่องเท็จ ไม่ได้ช่วยเหลือ เรื่องโกหกมดทเจ ไม่ได้หวังผลประโยชน์ ทำงานและกระทำการอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ก็ขอให้ประสบความสำเร็จ มีแต่ความสุข ความเจริญทั้งหลายทั้งปวง สุขภาพแข็งแรง อาชีพการงานเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเงินทอง จงบังเกิดแก่ครอบครัว ลูกหลาน ญาติพี่น้อง มิตรสหายทุกคนของท่าน

เวลาต่อมา นางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว ผู้ค้าสลากรายใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นพยานคนสำคัญของฝ่ายครูปรีชา ใคร่ครวญ ที่ประกาศรับคำท้าสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยเจ๊เกียวได้เดินทางมาเพียงคนเดียวเท่านั้น และมีคำสาบานเขียนด้วยลายมือของตนเองลงในกระดาษ และได้ถ่ายเอกสารคำสาบานมาแจกให้สื่อมวลชนด้วย โดยเมื่อเมื่อเจ๊เกียวเดินทางมาถึงก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากเช่นกัน และหลังจากที่เจ๊เกียวแจกกระดาษคำสาบานแล้วเสร็จก็ได้จุดธูปและท่องคำกล่าวบูชาสักการะองค์พระหลักเมือง ขณะนั้นเอง ร.ต.ท.จรูญ ยืนอยู่ภายนอก เมื่อทราบว่าเจ๊เกียวเดินทางมาถึงจึงเดินมาพบเจ๊เกียวที่รออยู่บนศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สำหรับบรรยากาศระหว่างนั้นค่อนข้างที่จะตึงเครียดพอสมควร โดยเจ๊เกียวได้ร่างคำสาบานดังกล่าวมอบให้ ร.ต.ท.จรูญ 1 แผ่น ซึ่งคำสาบานดังกล่าวนั้น เจ๊เกียวลงมือร่างมาด้วยตนเอง และขอให้ ร.ต.ท.จรูญ สาบานตามคำที่เจ๊เกียวร่างขึ้นมา โดย ร.ต.ท.จรูญได้ยินดีที่จะอ่านคำสาบานในทันที

โดยคำสาบานดังกล่าวความว่า “ข้าพเจ้า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ขอสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช สมเด็จโต หลวงปู่ทวด พระนเรศวรมหาราช ว่าข้าพเจ้าได้ซื้อลอตเตอรี่ เลข 533726 มาจริง ไม่ได้เก็บได้หรือมีคนหยิบส่งให้ ถ้าข้าพเจ้าพูดไม่จริง ขอให้ข้าพเจ้าแพ้คดีความ เจอกับความวิบัติภายใน 7 วัน 9 วัน พร้อมทั้งครอบครัวของข้าพเจ้าด้วย ถ้าข้าพเจ้าพูดเรื่องจริง ขอให้ชนะคดีความ ครอบครัวมีความสุขเจริญยิ่งๆ สาธุ สาธุ สาธุ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ ร.ต.ท.จรูญกล่าวคำสาบานตามที่เจ๊เกียวร่างมาให้แล้วเสร็จ เจ๊เกียวก็ได้อ่านคำสาบานที่มีข้อความคำสาบานเดียวกันจนแล้วเสร็จ ขณะนั้นสื่อมวลชนได้สอบถาม ร.ต.ท.จรูญว่าหลังจากนี้จะมีการพูดคุยกันหรือไม่ ร.ต.ท.จรูญได้ตอบคำถามขึ้นมาว่า “ไม่มีอะไรจะคุย” เมื่อพูดเสร็จก็ได้เดินลงจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในทันที เนื่องจากมีสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากรอสัมภาษณ์อยู่ เช่นเดียวกันกับเจ๊เกียว ที่สื่อมวลชนก็เฝ้ารอสัมภาษณ์อยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน

โดยตลอดเวลาพบมีกลุ่มญาติ รวมทั้งเพื่อนๆ และประชาชนที่เข้าข้างฝ่าย ร.ต.ท.ปรีชา ต่างเข้ามาพบ พร้อมจับมือและมอบดอกไม้และกล่าวให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ระหว่างที่เจ๊เกียวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้นก็ได้มีฝ่ายทางของ ร.ต.ท.จรูญ พยายามสอบถามถึงความจำของเจ๊เกียวอยู่ตลอดเวลา

สำหรับการให้สัมภาษณ์ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล รวมทั้งคำสัมภาษณ์ของนางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว ทุกคนต่างยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตนเอง เหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทุกครั้ง จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามชาวบ้านที่ขายเครื่องไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นหญิงคนหนึ่ง เล่าว่า ใจจริงของป้าไม่อยากให้ใครมาสาบานในลักษณะนี้ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะถ้าสาบานไปแล้ว และเราพูดอะไรออกไปเราก็ไม่รู้ไม่ว่าผลมันจะออกมาอย่างไร เพราะศาลหลักเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พูดตามตรงใจจริงก็ไม่ต้องการให้ใครมาสาบานแบบนี้ แต่เมื่อมาสาบานกันแล้วผลที่จะได้รับก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของใครของมัน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามประชาชนที่มาดูเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่างก็พูดว่า เชื่อว่าประชาชนทุกคนที่คอยติดตามข่าวนี้อยู่อาจจะมีความคิดเห็นไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะไปตัดสินว่าใครผิดใครถูกนั้นคงเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะต้องรอให้ศาลเท่านั้นเป็นผู้ตัดสินซึ่งจะมีความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนการมาสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในครั้งนี้ ผลที่ได้รับคงขึ้นอยู่กับกรมของใครของมัน





กำลังโหลดความคิดเห็น