ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กลุ่มนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่แฉถูกผู้บริหารและอาจารย์ปลอมลายเซ็นไปใช้เบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงการแสดง ล่าสุดตรวจพบหลักฐานเบิกเงิน 150,000 บาทเมื่อครั้งไปงานที่จังหวัดแพร่ช่วงปีก่อน จึงเข้าแจ้งความตำรวจแล้ว ด้านวิทยาลัยฯ ห้ามสื่อเข้าให้รอ ผอ.ชี้แจง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (2 ก.พ. 61) กลุ่มนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่มีการนัดหมายกันที่จะชูป้ายประท้วงและขับไล่ผู้บริหารของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ จากกรณีที่กลุ่มนักเรียนตรวจสอบและมีหลักฐานพบว่าน่าจะมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยง โดยนำรายชื่อนักเรียนไปใช้และมีการปลอมแปลงลายเซ็นของนักเรียนด้วย ซึ่งกรณีที่ตรวจพบล่าสุดเป็นกรณีการนำนักเรียนไปทำการแสดงที่จังหวัดแพร่ มีการเบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยง 150,000 บาท เมื่อช่วงเดือน มี.ค. 60 และทางกลุ่มนักเรียนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 61
ขณะที่บรรยากาศที่วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้าวันนี้ (2 ก.พ. 61) เบื้องต้นไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวใดๆ ของกลุ่มนักเรียนที่จะชูป้ายประท้วงและขับไล่ผู้บริหารของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ตามที่นัดหมาย โดยอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดตรวจตราการเข้าออก ซึ่งห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณวิทยาลัยอย่างเด็ดขาด
โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวที่ได้แสดงตัวเพื่อจะติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ พร้อมมีการนำป้ายมาติดไว้ที่บริเวณประตูทางเข้าระบุข้อความว่า “บุคคลภายนอกห้ามเข้า”
ทั้งนี้ อาจารย์ผู้ชายคนหนึ่งของวิทยาลัยแจ้งด้วยท่าทีขึงขังว่า ห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในบริเวณวิทยาลัยอย่างเด็ดขาด รวมทั้งห้ามบันทึกภาพใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องปัญหาภายใน หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนรายละเอียดและข้อเท็จจริงทั้งหมดกรณีนี้ทางผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่จะเป็นผู้ชี้แจงแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนกลุ่มนักเรียนที่มีการนัดหมายกันชูป้ายประท้วงและขับไล่ผู้บริหารของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้าวันนี้ (2 ก.พ. 61) ทางวิทยาลัยได้เรียกให้นักเรียนทุกคนเข้าร่วมประชุมภายในโรงละครของวิทยาลัย พร้อมทั้งมีการเชิญผู้ปกครองของนักเรียนเข้าร่วมด้วย
ขณะที่นักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ถูกนำชื่อไปใช้ในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงและถูกปลอมแปลงลายเซ็น เปิดเผยว่า กรณีที่มีการเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเดือน มี.ค. 60 ทางวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ได้รับงานไปจัดการแสดงที่จังหวัดแพร่ ใช้นักแสดงเป็นนักเรียนประมาณ 100 คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อไปจัดแสดงจริงใช้นักแสดงเพียง 50 คน ขณะที่ต่อมามีการตรวจสอบพบหลักฐานว่ามีการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเต็ม 100 คน รวมทั้งพบด้วยว่ามีการนำรายชื่อและมีการปลอมแปลงลายเซ็นของนักเรียนที่ไม่ได้ไปร่วมแสดงไปใช้เบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยง โดยที่นักเรียนที่มีรายชื่อและถูกปลอมแปลงลายเซ็นไม่รู้เห็นใดๆ ด้วยเลย ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องของผู้ที่เป็นอาจารย์ จึงเข้าแจ้งความเพื่อความถูกต้อง
นอกจากกรณีที่จังหวัดแพร่แล้ว เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายครั้งที่มีการกระทำลักษณะนี้ เพราะในช่วงหลังๆ มานี้มีหลายครั้งที่วิทยาลัยนำนักเรียนไปจัดแสดงแล้วไม่ได้จ่ายเบี้ยเลี้ยง มักจะมีการอ้างอยู่ตลอดว่าทางหน่วยงานราชการขอความอนุเคราะห์จึงไม่มีเงินเบี้ยเลี้ยงให้ ซึ่งไม่ทราบว่าจริงหรือไม่
ด้านผู้ปกครองของนักเรียนรายหนึ่งที่ถูกนำชื่อไปใช้ในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงและถูกปลอมแปลงลายเซ็นเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยรับรู้มาบ้างว่าเกิดกรณีเดียวกันนี้หลายครั้งแล้ว โดยที่ทางวิทยาลัยจะพานักเรียนไปแสดงตามงานต่างๆ ทั้งงานของส่วนราชการและเอกชนที่จัดอีเวนต์ทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่และที่ต่างๆ ซึ่งบางงานก็มีการจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้เด็กนักเรียน แต่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ยกตัวอย่างเช่น เคยได้เบี้ยเลี้ยงจากการซ้อมและการไปแสดง 300 บาท ต่อมาลดลงเหลือ 200 บาท และ 100 บาท จนกระทั่งไม่ได้รับเงินเลย โดยทางอาจารย์อ้างว่าเป็นการขอความร่วมมือและขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงาน ทำให้เด็กนักเรียนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยมาตลอด จนต่อมาพบหลักฐานและเข้าแจ้งความกัน ซึ่งอยากให้ทาง ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ชี้แจงให้เกิดความชัดเจนด้วยเพื่อความโปร่งใส
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (1 ก.พ. 61) กลุ่มนักเรียนจำนวนหนึ่งที่เข้าแจ้งความที่จังหวัดแพร่ และเตรียมเคลื่อนไหวชูป้ายประท้วงขับไล่ผู้บริหารของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ได้ถูกอาจารย์กักตัวไว้ให้อยู่ภายในวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่เพื่อพูดคุยเจรจากัน โดยทางฝ่ายอาจารย์ได้พยายามเกลี้ยกล่อมแกมบังคับให้ทางกลุ่มนักเรียนที่แจ้งความไว้ที่จังหวัดแพร่ถอนแจ้งความกรณีดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางกลุ่มนักเรียนยังไม่ได้ตอบตกลงแต่อย่างใด และได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากวิทยาลัยได้ในช่วงดึก