เชียงราย - “น้องต้นกล้า-ศิลปินน้อยชาวโคราช” พร้อมครอบครัว หอบผลงานขอคำแนะนำจาก “อาจารย์เฉลิมชัย” ถึงวัดร่องขุ่น บอกดีใจที่สุดในโลก ขณะที่ “ลุงเหลิม-ศิลปินแห่งชาติ” ชมเปาะฝีมือเยี่ยมทั้งที่ไม่เคยเรียน แนะเพิ่มมิติความใกล้-ไกล ย้ำทำได้แล้วให้ลืมต้นแบบ ผลิตผลงานตัวเอง
วันนี้ (30 ม.ค.) ด.ช.เสฎฐพงศ์ แช่มชื่น หรือน้องต้นกล้า ศิลปินน้อยวัย 11 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดสระแก้ว อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยนางปิยนันท์ แช่มชื่น อายุ 71 ปี ผู้เป็นย่า, นายวรชิต แช่มชื่น อายุ 49 ปี และนางอาฒยา แช่มชื่น อายุ 38 ปี บิดา-มารดา ได้เดินทางไปพบกับอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
อาจารย์เฉลิมชัยได้ออกมาต้อนรับน้องต้นกล้า และครอบครัว พร้อมชื่นชมฝีมือที่วาดภาพเหมือนตนได้อย่างงดงามจนสามารถจำหน่ายได้ และสร้างความฮือฮาไปทั่ว ขณะที่ “น้องต้นกล้า” ก็ได้นำภาพพญาครุฑ ที่วาดด้วยสีอะคริลิกบนผืนผ้าใบขนาดประมาณ 50 ซม. คูณ 70 ซม. และภาพร่างลายเส้นอีกหลายใบมาให้อาจารย์เฉลิมชัยช่วยสอนเพิ่มเติมด้วย
อาจารย์เฉลิมชัยชมว่าฝีมือของน้องต้นกล้าแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ที่เคยมาพบก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นน้องภูผา, น้องอามานี่, น้องซานโตส ฯลฯ ที่ล้วนเป็นคนที่เคยเรียนด้านศิลปะกันมาทั้งนั้น แต่น้องต้นกล้าไม่เคยเรียนมาก่อน และมีอายุแค่ 11 ขวบ แต่ใช้วิธีการลอกเลียนแบบรูปภาพของตนออกมาได้อย่างสวยงาม โดยมีการใช้ต้นแบบจากภาพจริงแล้วตกแต่งตามที่เขาต้องการ
สำหรับรูปภาพที่น้องต้นกล้านำไปให้ดูนั้น อาจารย์เฉลิมชัยสอนว่าให้ดูเรื่องมิติความใกล้-ไกล และการลงเส้นให้เหมาะสม เช่น ภาพพญาครุฑ ให้ดูความเข้มอ่อนของเส้น เพื่อไม่ให้บางจุดใหญ่ หรือเล็กเกินไป โดยเฉพาะช่วงแขน ส่วนภาพลายเส้นที่ร่างเป็นพญานาค ก็ให้ดูความใกล้-ไกล ให้ทำพื้นน้ำเล็กลง และพระอาทิตย์ด้านหลังก็ให้เล็กลงด้วย ไม่เช่นนั้นจะทำให้มองไม่เห็นความใกล้-ไกลของรายละเอียดในภาพ เป็นต้น
จากนั้นอาจารย์เฉลิมชัยได้พาน้องต้นกล้าเข้าชมภายในบริเวณวัดตั้งแต่อุโบสถขาว, ศาลาธรรม, หอศิลป์ ฯลฯ รวมทั้งภาพวาด ปฏิมากรรม และสถาปัตยกรรมต่างๆ รวมถึงพาชมภาพต้นแบบที่น้องต้นกล้าเคยใช้วาด เช่น ภาพพระพิฆเนศ พญาครุฑ ฯลฯ ซึ่งสร้างความดีใจให้แก่น้องต้นกล้าและครอบครัวเป็นอันมาก
นอกจากนี้ อาจารย์เฉลิมชัยยังได้มอบเหรียญพระพิฆเนศทองดำให้น้องต้นกล้าเป็นที่ระลึก 1 องค์ด้วย ขณะที่น้องต้นกล้าได้ซักถามอาจารย์เฉลิมชัย ทั้งเรื่องงานศิลปะ ประวัติส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง
อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า เขาไม่เหมือนคนอื่นตรงที่ไม่ได้เรียนมา และเลียนแบบภาพวาดของตน ซึ่งสิ่งที่ตนอยากสอนคือเมื่อทำได้แล้วให้ลืมตนไปเลย แล้วพัฒนางานศิลปะนั้นให้เป็นผลงานของตัวเอง โดยต่อไปก็ให้เรียนรู้ให้มากยิ่งๆ ขึ้นไปกว่านี้ต่อไป
“แต่อย่าลืมว่าเขายังอายุแค่ 11 ขวบ ทำได้แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว ขณะเดียวกันได้ทราบว่าเขาเป็นคนที่ขยัน มีความอดทน ใฝ่เรียนรู้ สอบถามไม่หยุด และเขารู้ว่าสิ่งที่ตัวเองถามยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ซึ่งผมก็พยายามบอกว่าเรื่องศิลปะนั้นไม่ต้องรีบร้อนให้ค่อยเป็นค่อยไป”
อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า รู้สึกประทับใจมากที่น้องต้นกล้า ที่ยังอายุน้อยแบบนี้กลับประกาศก้องว่า “โตขึ้นเขาไม่อยากเป็นศิลปินแห่งชาติ แต่อยากเป็นคนที่สร้างวัดให้มีความยิ่งใหญ่” ซึ่งเขาเหมือนตนช่วงที่เป็นเด็ก ที่มีอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เป็นต้นแบบ และใฝ่ฝันจะสร้างศิลปะที่วัดร่องขุ่นให้มีความยิ่งใหญ่งดงาม กระทั่งปัจจุบันตนสามารถทำได้ และไม่จำเป็นต้องขายภาพต้นฉบับอีก แต่ใช้ภาพพิมพ์หารายได้มาทำตามที่ฝันได้
ด.ช.เสฎฐพงศ์กล่าวว่า ดีใจมากที่สุดในชีวิต และในโลกที่ได้มาพบกับอาจารย์เฉลิมชัย เพราะถือเป็นต้นแบบ หรือไอดอลของตนเลยทีเดียว ซึ่งความรู้ที่ได้รับจากการสอนของอาจารย์ก็จะนำไปพัฒนาการวาดภาพของตนอย่างเต็มที่ โดยตั้งใจจะวาดภาพให้ดีต่อไปเพราะตนชอบการวาดภาพมาก และอยากสร้างวัดให้มีความยิ่งใหญ่ที่บ้านเกิดอีกด้วย
ด้านนายวรชิตกล่าวว่า ตนมีลูกชาย 2 คน คนโตคือ น้องต้นกล้า และมีน้องอายุ 7 ขวบอีก 1 คน ซึ่งน้องต้นกล้าชอบวาดภาพมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เมื่อโตขึ้นก็ชอบวาดภาพของอาจารย์เฉลิมชัย โดยดูจากยูทูปหรือทางอินเทอร์เน็ต พอวาดมากขึ้นตนจึงพรินซ์เป็นใบใหญ่ให้เขาดูเสียเลย
ซึ่งเขาก็วาดได้ดีมาก โดยเริ่มต้นจากวาดบนกระดาษใบใหญ่ และต่อมาใช้สีอะคริลิกบนผืนผ้าใบได้หลาย 10 ใบแล้ว ใบแรกที่วาดเสร็จเป็นภาพพระพิฆเนศ แล้วมีคนไปดู และถามขอซื้อ ตนก็พูดไปโดยไม่ได้ตั้งใจว่าขายราคาใบละ 7,000 บาท ปรากฏว่าคนคนนั้นตัดสินใจซื้อทันที ทำให้ตนตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อตกลงไปแล้วก็มอบให้เขาไป กระทั่งช่วงหนึ่งจำเป็นต้องนำภาพนั้นมาจัดแสดงก็ไปขอยืมเขากลับมา จนถึงปัจจุบันภาพใบนั้นยังอยู่ที่บ้านโดยรอให้เจ้าของมารับไป
“สำหรับอนาคตของลูกชายนั้นก็จะส่งเสริมให้เป็นไปตามความพยายามและใฝ่ฝันของเขาต่อไป”