อุบลราชธานี - หนุ่มคนงานก่อสร้างใช้โปรแกรมเฟซบุ๊กตุ๋นญาติผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางอุบลฯ โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำสามารถช่วยเหลือให้ญาติที่ถูกขังไปพักอยู่ในที่สบายกว่าผู้ต้องขังทั่วไป และได้รับการลดโทษเร็ว ทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อหลายราย เสียเงินไปกว่า 1 แสนบาท
เมื่อเวลา 20.30 น. คืนที่ผ่านมา (29 ม.ค.) พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุดา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี และ พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี สว.สส.ได้รับแจ้งจาก น.ส.ดาราวรรณ ขัดแก้ว อายุ 31 ปี ทำงานเป็นลูกจ้างของหน่วยงานแห่งหนึ่ง พักอยู่บ้านเลขที่ 38 บ้านตำแย หมู่ 1 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี ถูกนายวีระพงษ์ ปัญญาไว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 บ้านโนนตาล หมู่ 10 ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
ซึ่งเข้ามาทักทายผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊กของเรือนจำกลางอุบลฯ ที่ น.ส.ดาราวรรณสอบถามวันเวลาเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นพี่ชายที่ถูกคุมขังคดีพยายามฆ่าผู้อื่น และเพิ่งถูกย้ายมาขังอยู่ที่เรือนจำกลางอุบลฯ โดยนายวีระพงษ์ได้แอบอ้างตัวเองเป็นผู้คุมเรือนจำคนหนึ่ง สามารถช่วยเหลือพี่ชายของ น.ส.ดาราวรรณมาอยู่ในแดนคุมขังที่มีความสุขสบาย และได้รับการลดหย่อนโทษเร็วกว่าปกติ โดยเรียกร้องขอเงินจำนวน 20,000 บาทเป็นค่าวิ่งเต้นช่วยเหลือครั้งนี้
น.ส.ดาราวรรณและครอบครัวหลงเชื่อ จึงมอบเงินให้นายวีระพงษ์ไปเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 14,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 6,000 บาทจะมอบให้ภายหลัง ต่อมานายวีระพงษ์ก็ได้เข้ามาทักทายพูดคุยผ่านทางเฟซบุ๊กอีก โดยคราวนี้ระบุว่าสามารถฝากแฟนหนุ่มของ น.ส.ดาราวรรณเข้าทำงานเป็นพนักงานขับรถของเรือนจำได้ โดยขอค่าเหนื่อยจำนวน 60,000 บาท และขอเงินล่วงหน้าก่อนจำนวน 20,000 บาท ส่วนที่เหลือให้ผ่อนเป็นรายเดือนหลังได้เข้าทำงาน จึงมอบเงินให้ไปอีกเมื่อวันที่ 19 ม.ค.
ต่อมา น.ส.ดาราวรรณได้เข้าเยี่ยมพี่ชายที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางอุบลราชธานี และสอบถามความเป็นอยู่ ก็ทราบว่าถูกคุมขังอยู่ในแดนปกติ ไม่ได้พักอยู่ในแดนที่นายวีระพงษ์อ้างว่ามีความสุขสบายกว่าปกติ ทำให้เกิดความสงสัย จึงเข้าไปสอบถามหาเจ้าหน้าที่เรือนจำที่นายวีระพงษ์นำชื่อมาอ้าง พบว่าเป็นคนละคนกับนายวีระพงษ์
จึงเข้าแจ้งความต่อชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี และร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางอุบลราชธานีซ้อนแผนติดต่อให้นายวีระพงษ์มารับเงินในส่วนที่เหลืออีก 6,000 บาทบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัด ตั้งอยู่ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี กระทั่งนายวีระพงษ์หลงกลมาตามนัดและถูกจับได้เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา
ด้านนายวีระพงษ์ผู้ต้องหาหลังถูกจับกุมให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นลูกจ้างรับเหมางานก่อสร้างทั่วไป และตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาไม่มีงานให้ทำ จึงใช้โปรแกรมเฟซบุ๊กพูดคุยกับญาติผู้ต้องหาที่เข้ามาสอบถามเรื่องราวในเพจของเรือนจำกลางอุบลราชธานี โดยอ้างชื่อเป็นผู้คุมเรือนจำคนหนึ่ง
เมื่อญาติของผู้ต้องหาหลงเชื่อก็จะอ้างสามารถช่วยเหลือให้ญาติที่ถูกคุมขังได้พักในที่ที่สบายกว่าผู้ต้องขังทั่วไป หรือได้รับการลดหย่อนโทษได้เร็วกว่าผู้ต้องขังคนอื่น โดยเรียกร้องเงินเป็นค่าตอบแทน ซึ่งที่ผ่านมาหลอกลวงเหยื่อไปแล้ว 3 ราย ได้เงินมาใช้เที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงในตัวจังหวัดราว 7-8 หมื่นบาท โดยรายล่าสุดคือ น.ส.ดาราวรรณ จึงแจ้งข้อหาฉ้อโกงต่อนายวีระพงษ์ไว้เบื้องต้นก่อน