ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ศึกษาธิการจังหวัดโคราชลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ผอ.โรงเรียนฉาวแล้ว พร้อมลงนามคำสั่งให้พักราชการ คาดรู้ผล 90 วันจากกำหนด 180 วัน เผยสั่งสอบประวัติกรณีเคยลวนลามเด็กนักเรียน ป.6 และล่าสุดรับแจ้งพบมีสัมพันธ์ฉาวกับเด็ก ม.2 โรงเรียนเอกชนรายใหญ่ใน อ.บัวใหญ่ด้วย ขณะ พม.โคราชรับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 รายล่าสุดมาอยู่ในความดูแลที่บ้านนารีสวัสดิ์แล้ว
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมคบสัมพันธ์ชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ของโรงเรียน โดยมีหลักฐานข้อความสนทนาในแชตไลน์หวานซึ้งเรียกกันว่า “เมีย -ที่รัก” หลุดออกมาประจาน จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว กระทั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 6 มีคำสั่งย้ายด่วนให้มาช่วยราชการที่ สพป.นครราชสีมา เขต 6 พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและสรุปผลว่ามีมูลความจริง พร้อมเสนอรายงานให้ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง กับ ผอ.โรงเรียน ดังกล่าว
ขณะทางด้านคดีได้มีผู้ปกครองพาเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 13 ปี อีกรายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิด ผอ.ฉาวในข้อหากระทำอนาจารลูกสาว กล่าวหาว่าก่อเหตุลวนลามและชักชวนไปมีเพศสัมพันธ์จะให้เงิน 2,000 บาทช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา แต่ลูกสาวไม่ตกลง ตามข่าวที่เสนอข่าวอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด นายสุวิทย์ ศรีฉาย รองศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวแล้ว โดยมีคณะทำงาน 3 คน ประกอบด้วย ระดับรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (รอง ผอ.สพป.เขต) จำนวน 1 คน, นิติกรอีก 2 คน คาดว่าคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวจะใช้เวลาทำงานไม่เกิน 90 วันจะได้ความชัดเจนแม้ว่ากำหนดกรอบเวลาไว้จำนวน 180 วันก็ตาม
โดยจะกำชับให้สอบสวนไปถึงกรณีที่ ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวเคยมีประวัติในการทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิง ป.6 ที่ อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา ด้วย และล่าสุดยังได้รับแจ้งจากผู้บริหารโรงเรียนเอกชนรายใหญ่ใน อ.บัวใหญ่ด้วยว่า ผอ.คนโรงเรียนนี้ขับรถมารับส่งนักเรียนหญิง ม.2 ที่โรงเรียนนี้บ่อยครั้งด้วยเช่นกัน เพราะข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนด้วย
และในวันเดียวกันตนได้ลงนามคำสั่งพักราชการ ผอ.คนดังกล่าวด้วย จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะได้ส่งหนังสือแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวเพื่อลงนามรับทราบต่อไป
นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสื่อเสียให้แก่วงการครูอย่างมาก หากผลการสอบวินัยร้ายแรงออกมาว่าผิดจริงทางกระทรวงศึกษาธิการควรมีมาตรการเด็ดขาดในการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครูด้วย เพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่างได้
ส่วนการดูแลเด็กนักเรียนหญิง ม.2 ที่เป็นข่าวล่าสุดนั้นเจ้าหน้าที่รายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา ได้ลงไปรับตัวเด็กมาอยู่ในความคุ้มครองที่บ้านนารีสวัสดิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมาแล้วเพื่อไม่ให้เด็กเกิดความเครียด ทางศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา โดยศูนย์เสมารักษ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปร่วมสอบปากคำและพูดคุยกับเด็กแล้ว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เด็กได้รับผลกระทบจากสังคมรอบข้างและสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้