นครปฐม - กองปราบลงพื้นที่กาญจนบุรี-นครปฐม เร่งตามตัวหลวงลุงจอมหื่น ขณะแม่ และเหยื่อ บอกใจชื้นคดีจะได้รับการรื้อใหม่ เผยวันนี้ยังทำใจไม่ได้ต่อเหตุการณ์สุดเลวร้ายในชีวิต วอนผ่านสื่อให้สังคมโซเชียลเข้าใจหลังถูกโจมตีหนัก ขณะตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เร่งติดต่อกลับเพื่อจะดำเนินคดี สุดรันทดแม่ลูกกอดกันเพื่อเดินหน้าฝ่าวิกฤต
วันนี้ (29 ม.ค) สื่อข่าวติดตามความคืบหน้ากรณี น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ชาวอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ถูกหลวงลุง หรือพระครูปลัดวิบูลย์ กาญจนลักษณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อ.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ข่มขืนกระทำชำเรานานแรมปี ก่อนญาติผิดสังเกตและพยายามสอบถาม จน น.ส.จอย สารภาพว่า ถูกข่มขืนมายาวนาน และเมื่อไปแจ้งความกลับถูกร้อยเวรแจ้งว่า คดีความหมดอายุแล้ว ทำได้เพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้น จึงมีการร้องสื่อ และปล่อยคลิปภาพ และเสียงของหลวงลุงสุดวิตถารสู่สังคม ท่ามกลางความสงสัยว่าเหตุใดไม่มีการสั่งให้สึก ทำเพียงให้ย้ายออกออกพื้นที่เท่านั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.จอย และนางแดง มารดา ซึ่งได้เดินทางลงมาพบลูกสาวหลังจากเกิดเป็นข่าวดัง และรู้ว่าสภาพจิตใจของทั้งคู่นั้นมีความเครียดหนัก ทั้งหวั่นถูกทำร้ายจากการข่มขู่ของหลวงลุง และกระแสโจมตีจากโลกโซเชียลที่มองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการสมยอมของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยืนยันว่า เป็นการข่มขืน และบังคับข่มขู่ให้ปิดปากไว้มานาน
น.ส.จอย บอกว่า หลังเกิดเป็นกระแสข่าวนั้นก็เกิดความเครียดหนัก แต่ยังดีที่สามีนั้นให้กำลังใจอย่างดี โดยยืนยันว่า การถูกข่มขืนนั้นไม่เคยเต็มใจ แต่ก็ไม่รู้จะปรึกษาใครที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ และตอนนี้เพิ่งเริ่มไปทำงานกลัวว่าที่ทำงานจะสงสัย และรับต่อข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้ จนถึงขั้นไม่รับเข้าทำงาน จึงเกิดความกลัว และเครียด
โดยเมื่อวานนี้มีตำรวจกองปราบปรามได้เข้ามาหาที่บ้าน และสอบปากคำเบื้องต้น โดยยืนยันจะให้การช่วยเหลือดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ทำให้อุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังเครียดกับข่าวในโซเชียลที่มีคนมาโจมตีหนัก ซึ่งขอให้เข้าใจตนบ้าง อย่าด่า เพราะถ้าไม่คิดจะกู้ศักดิ์ศรีให้ตนเอง และครอบครัวก็จะไม่ออกมาแจ้งความเอาความผิดต่อหลวงลุง คงปล่อยให้เรื่องเงียบไปเอง ยอมรับว่าเสียใจที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดสนใจกับสิ่งที่ตนเองออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ผู้สื่อข่าวขอให้ น.ส.จอย พยายามโทร.ติดต่อกับหลวงลุง แต่ไม่มีคนรับสาย คาดว่าน่าจะโกรธ หรือรู้ตัวแล้วว่าตกเป็นข่าว
ด้าน นางแดง เผยว่า ได้เดินทางลงมาเพื่อมาพบลูกหลังเกิดเป็นข่าว ซึ่งทั้งตน และลูกสาวเครียดมากต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งช่วงแรกที่รู้เรื่องหัวใจแทบสลาย ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับลูก ส่วนตัวนั้นเป็นคนจน ทุกงวันนี้ก็ทำงานใช้แรงงาน โดยตั้งแต่เลี้ยงลูกสาวมานั้นพยายามหาเงินส่งให้เขาเรียนแต่ก็ไม่เป็นไปตามความฝัน เพราะหัวเขาไม่ดี และทำให้รู้ว่าทำงานอย่างเดียวส่งให้ลูก นั้นใช้ไม่ได้ เพราะเขาต้องการความรัก และความเข้าใจด้วย
ขอบคุณตำรวจกองปราบที่บอกจะตามหลวงลุง มาดำเนินคดีให้ได้ และอยากให้จบข่าวไวๆ และเป้าหมายเดียว คือ เอาตัวหลงลุงมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่เขาจะหลบหนีไปไหนได้นานแค่ไหนไม่รู้เพราะเขาน่าจะมีเงินติดตัวพอสมควร
ทั้งนี้ บรรยากาศในครอบครัวของ น.ส.จอย เต็มไปด้วยความเครียด โดย น.ส.จอย และนางแดง ได้สวมกอดกันร่ำไห้เป็นที่หดหู่ใจต่อภาพที่ปรากฏ นอกจากนั้น แต่ละคนจะแยกกันไปอยู่คนละมุมบ้านท่ามกลางความเครียด แต่พยายามส่งกำลังใจให้กัน โดยรอเพียงการทำงานของตำรวจ เพื่อจับกุมหลวงลุง มาทำการสอบสวนสิ่งที่เกิดขึ้น และดำเนินคดีเท่านั้น