แม่เด็กหญิงยอดกตัญญูยังวิกฤต ผอ.โรงเรียนเปิดบัญชีระดมความช่วยเหลือ

นครปฐม - ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกะโดน ยันช่วยเหลือน้องเฟิร์น วัลลี 2 เด็กหญิงยอดกตัญญูเต็มที่ ล่าสุด ได้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 ในการขอรับการช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา พร้อมพาน้องเฟิร์น ไปเปิดบัญชีธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี ธารน้ำใจช่วยเหลือ เด็กหญิงบุญรัตน์ สาละสาลิน ขณะที่อาการแม่เด็กยังอยู่ในขั้นวิกฤต

วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อติดตามความคืบหน้าอาการของ นางภัสสร สาละสาลิน แม่ ด.ญ.บุญรัตน์ สาละสาลิน เด็กหญิงยอดกตัญญู วัย 12 ปี ที่ต้องขาดเรียนกว่า 1 เดือน เพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายกิ่ง ลิ้มประสาท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกะโดน และ น.ส.สาวิตรี ถนอมชาติ ครูประจำชั้นของน้องเฟิร์น ซึ่งมาเยี่ยมดูอาการนางภัสสร และจะพาน้องเฟิร์น ไปเปิดบัญชีธนาคาร หลังมีผู้ใจบุญทราบข่าวจากเฟซบุ๊กของทางโรงเรียน และประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือ

โดย นายกิ่ง ลิ้มประสาท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกะโดน กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวน้องเฟิร์น ออกไปตามสื่อต่างๆ ก็ได้มีผู้ใจบุญติดต่อเข้ามาหลายราย โดยประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัว และทุนการศึกษาให้แก่ น้องเฟิร์น ซึ่งตนได้เดินทางมารับตัวน้องเฟิร์น เพื่อพาไปเปิดบัญชีธนาคารให้เป็นชื่อของน้องเฟิร์น ในชื่อบัญชี ธารน้ำใจช่วยเหลือ เด็กหญิงบุญรัตน์ สาละสาลิน โดยจะมีคณะครูคอยดูแลเรื่องการเบิกจ่ายเงินเพื่อป้องกันการแอบอ้างสิทธิ ส่วนในเรื่องของการเรียนตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึงเดือน น้องเฟิร์น ก็จะเรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยทางโรงเรียนยืนยันจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเข้าใจว่าที่น้องเฟิร์น ขาดเรียน เพราะต้องมาคอยดูแลแม่ที่ป่วยหนัก โดยจะให้น้องเฟิร์น ได้สิทธิในการสอบเสริมเพิ่มทักษะ เพื่อให้จบการศึกษาพร้อมกับเพื่อนในชั้น

ส่วน ด.ญ.บุญรัตน์ สาละสาลิน เด็กหญิงยอดกตัญญู วัย 12 ปี ล่าสุด วันนี้มีสีหน้ายิ้มแย้มขึ้น โดยบอกว่าดีใจที่มีผู้ใหญ่ใจดีมาช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งตนก็พร้อมจะสู้ และไม่เสียใจหากต้องหยุดเรียน โดยบอกว่า เรื่องเรียนจะเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้ตนขอดูแลแม่ก่อน โดยมีความหวังว่าแม่จะกลับมาหายเป็นปกติ และจะรีบกลับไปเรียนให้เร็วที่สุด

ด้าน นางประสิทธิพร ทองด้วง อายุ 41 ปี เพื่อนบ้านของ นางภัสสร ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการ บอกว่า ตนเป็นคนพาแม่น้องเฟิร์น มาส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ซึ่งวันที่ต้องเร่งนำตัวมาส่งโรงพยาบาล แม่น้องเฟิร์น มีอาการหายใจไม่ออก ตนจึงได้พาแม่น้องเฟิร์น มาโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อเจาะน้ำในท้องออก และพากลับบ้านในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จนเวลาประมาณ 21 นาฬิกา น้องเฟิร์น ก็วิ่งร้องไห้มาหาที่บ้าน บอกแม่หายใจไม่ออก ให้ช่วยพาแม่ไปส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมอีกครั้ง โดยครั้งนี้แพทย์บอกต้องให้แอดมิท เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการหนัก แต่ตนก็ได้มีการพูดคุยกับแพทย์ ว่า คนไข้มีฐานะยากจน อยู่ลำพังกับลูกเพียง 2 คน ไม่มีเงินที่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งแพทย์ก็ให้คำแนะนำว่า ให้ตนดำเนินการเรื่องการใช้สิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยแพทย์ก็ได้เซ็นรับรองการรับรักษาอาการของนางภัสสร ตามการใช้สิทธิของผู้ป่วยฉุกเฉิน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพูดคุยสอบถามตัวน้องเฟิร์น ถึงความเป็นอยู่หลับนอนที่โรงพยาบาลนครปฐม ทำให้ทราบว่า น้องเฟิร์น ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน เพราะต้องคอยดูแลเช็ดตัวให้แม่ จนถึงช่วงสายของวันนี้ ก็ยังไม่ได้กินข้าว เพราะไม่มีเงินติดตัว ต้องดื่มน้ำเปล่าประทังความหิว แต่ด้วยสีหน้า และแววตาของน้องเฟิร์น ดูจะมีความหวังว่าแม่จะหายจากอาการป่วย โดยบอกว่า จะพยายามพูดคุยกับแม่ให้ได้มากที่สุด และจะไม่ทำตัวเป็นภาระให้แม่ต้องเป็นห่วง โดยจะสู้ และเป็นกำลังใจให้แม่

สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการจะช่วยเหลือครอบครัว และทุนการศึกษาให้แก่ น้องเฟิร์น สามารถบริจาคผ่านได้ที่ธนาคารออมสิน สาขาสนามจันทร์ ชื่อบัญชี ธารน้ำใจช่วยเหลือ เด็กหญิงบุญรัตน์ สาละกาลิน เลขที่บัญชี 020234366555