กาญจนบุรี - “หมวดแบงค์” อดีตประธ่านสโมสรเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ลูกชาย “รังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์” นายก อบจ.กาญจนบุรี และ “ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์” อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ขับบิ๊กไบค์ดูคาติชนท้ายรถสิบล้อบรรทุกไก่ บนถนนกาญจนบุรี-ไทรโยค เสียชีวิตคาที่
กลางดึกวันนี้ (27 ม.ค.) ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค หมู่ 1 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พหลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิพิทักษ์กาญจน์
ในที่เกิดพบรถสิบล้อยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 85-2271 กทม.บรรทุกลังพลาสติกสำหรับใส่ไก่มาเต็มคันรถ จอดกะพริบไฟอยู่ข้างทาง โดยมีนายจักรกฤษ เทพงามท้วม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/10 หมู่ 9 ต.แขวงคลอง 12 เขตหนองจอก กทม.เป็นคนขับ และพบจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อดูคาติ สีส้ม-ขาว สภาพด้านหน้าพังยับเยิน
ส่วนคนขับขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวเสียชีวิตคาที่อยู่บริเวณไหล่ทาง สภาพศพนอนคว่ำหน้า มีเลือดไหลออกจมูกและปาก หลังจากเจ้าหน้าที่พลิกศพพิสูจน์ในเบื้องต้นแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปไว้ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา และได้ติดต่อไปหาญาติของผู้เสียชีวิตมาดูศพ
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ ร.ต.ท.อิศเรศ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือแบงค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/1 หมู่ 1 ต.วังด้ง อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี และเป็นบุตรชายคนโตของนายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายก อบจ.กาญจนบุรี และนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นนักสังคมสงเคราะห์ (สบ 1) กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลตำรวจ อีกทั้งยังเป็นอดีตประธานสโมสรฟุตบอลเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด อีกด้วย
ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายจักรกฤษ เทพงามท้วม คนขับรถบรรทุกสิบล้อ เบื้องต้นให้การว่าตนกำลังขับไปเอาไก่ในเขตพื้นที่บ้านปากกิเลน ต.สิงห์ อ.ไทรโยค เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่นั้นก็ได้ยิงเสียงดังมาจากทางด้านหลังรถจึงรีบจอดรถเพราะเข้าใจว่ายางรถยนต์ล้อหลังระเบิด แต่เมื่อลงมาดูก็พบว่าไม่ใช่ยางระเบิด แต่มีคนขับจักรยานยนต์พุ่งชนด้านท้ายและเสียชีวิตคาที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป