อุดรธานี - รมว.พัฒนาสังคมฯ เปิดโรงรับจำนำของรัฐสาขาที่ 38 และเป็นแห่งแรกในภาคอีสานกลางเมืองอุดรฯ เผยต้องการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสบปัญหาเฉพาะหน้าด้านการเงินได้เข้าถึงแหล่งเงินของรัฐได้สะดวกขึ้น เพื่อหนุนเสริมพัฒนาการประกอบอาชีพ
วันนี้ (26 ม.ค.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดสถานธนานุเคราะห์ (โรงรับจำนำของรัฐ) สาขาที่ 38 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า การเปิดสถานธนานุเคราะห์แห่งที่ 38 ณ จังหวัดอุดรธานีแห่งนี้ เนื่องด้วยเห็นว่าจังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น มีความต้องการที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาครัฐเป็นจำนวนมากและเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญ รวมถึงเป็นศูนย์กลางคมนาคมและการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สถานธนานุเคราะห์จึงได้คัดเลือกพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานีจัดตั้งโรงรับจำนำของรัฐสาขา 38 ขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการประกอบอาชีพ ในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสบปัญหาเฉพาะหน้าด้านการเงินการดำรงชีพและการประกอบอาชีพ เป็นสถาบันการเงินทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินของภาครัฐ
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบ พึ่งพาตนเองได้นำมาสู่การสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตและดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
ทั้งนี้ โรงรับจำนำของรัฐมีการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียงร้อยละ 25 สตางค์ต่อเดือน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท และอัตราดอกเบี้ยพิเศษนโยบาย 9 ของขวัญปีใหม่ ก้าวไปกับ พม.คาดว่าในปีแรกจะมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 6,000 รายตั๋ว คิดเป็นเงินประมาณ 90 ล้านบาท
นับว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง และได้มีการปรับภาพลักษณ์เปลี่ยนโฉมการบริการใหม่ ตั้งแต่เรื่องภาพลักษณ์ภายนอกให้ดูมีความสะดวกสบายมากขึ้น คล้ายกับสถาบันการเงินต่างๆ
ตลอดจนการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการที่สะดวกรวดเร็วและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาใช้บริการอย่างสโลแกนที่ว่า “ให้ราคาสูง ดอกเบี้ยต่ำ เก็บทรัพย์อุ่นใจ”
ปัจจุบันโรงรับจำนำของรัฐ มีสาขาทั้งสิ้น 38 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตต่างๆ ของกรุงเทพฯ จำนวน 29 แห่งปริมณฑล 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และส่วนภูมิภาค 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดระยอง 2 แห่ง จังหวัดลำพูน 1 แห่ง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 แห่ง และจังหวัดอุดรธานี 1 แห่ง โดยที่จังหวัดอุดรธานีเป็นสาขาแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
