มหาสารคาม - เพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ตลาดพยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม 9 คูหา แต่รถดับเพลิงกลับไม่มีน้ำในรถ ต้องรอรถดับเพลิงจากพื้นที่ข้างเคียงมาช่วยดับเพลิง ผลเพลิงผลาญวอดทั้งหลัง 5 คูหา เสียหายบางส่วน 4 คูหา มีผู้เสียชีวิตคากองเพลิง 1 ศพ เสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
ค่ำวานนี้ (24 ม.ค.) ร.ต.อ.ภัทรชัย มงคลศรี ร้อยเวร สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลตำบลพยัคฆภูมิพิสัย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม จึงแจ้งลูกข่ายมูลนิธิโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย พร้อมรถดับเพลิง และกำลังเสริมจาก อบต. และอำเภอใกล้เคียงกว่า 10 คัน ให้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารพาณิชย์ในย่านการค้า ซึ่งสภาพอาคารเป็นบ้านไม้ทั้งหมด 9 คูหา 5 ครัวเรือน โดยเสียหายทั้งหลังจำนวน 5 คูหา และเสียหายบางส่วนอีก 4 คูหา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังต้นเพลิงคือบ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 เปิดเป็นร้านจำหน่ายรองเท้า ซึ่งเป็นบ้านของนางสมบูรณ์ หม่อมร้อยเอ็ด อายุ 70 ปี เพลิงได้เริ่มลุกไหม้อาคารหลังดังกล่าว ก่อนจะลุกลามไปยังร้าน อ.เจริญทรัพย์ จำหน่ายข้าวสารและหัวอาหารสัตว์ ของนายแสงเดือน สุดตัง และบ้านของนายกรศักดิ์ โคตาแสง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ปะหลาน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
เหตุการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางสมบูรณ์ หม่อมร้อยเอ็ด เจ้าของบ้านต้นเพลิง ซึ่งเป็นร้านขายรองเท้า คาดว่าขณะเกิดเหตุนางสมบูรณ์ได้อยู่ที่บริเวณชั้นสองของบ้าน พยายามหนีไฟออกมาแต่ติดที่ประตูเหล็กดัด ทำให้ชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทำให้นางสมบูรณ์ถูกไฟคลอกเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
นายแสงเดือน สุดตัง เจ้าของร้านขายข้าวสารซึ่งอยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้ปิดร้านแล้ว ตนไปนอนที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ทราบข่าวว่าที่ร้านไฟไหม้จึงรีบมาดูที่ร้านก็พบว่าเพลิงไหม้ร้านไปหมดแล้ว สาเหตุหนึ่งคาดว่าจะมาจากรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลพยัคฆภูมิพิสัยขับมาถึงที่เกิดเหตุแล้วแต่กลับไม่มีน้ำ จึงไม่สามารถดับเพลิงได้ทันท่วงที ต้องรอรถดับเพลิงจากหน่วยอื่นที่อยู่ไกลออกไป กว่าจะมาถึงไฟก็ไหม้บ้านไปหลายคูหาแล้ว เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตด้วย
ด้าน นายกรศักดิ์ โคตาแสง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุน้องชายเห็นเปลวไฟอยู่ภายในบ้านต้นเพลิง จึงได้ตะโกนร้องเรียกเจ้าของบ้าน พร้อมนำถังดับเพลิงไปช่วยดับไฟ แต่บ้านต้นเพลิงได้ปิดประตูเหล็กจากด้านในไว้ แม้จะพยายามเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านแต่ไม่สามารถเปิดออกมาได้ จึงไม่สามารถช่วยเหลือนางสมบูรณ์ได้
ด้าน ร.ต.อ.ภัทรชัย มงคลศรี ร้อยเวรฯ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย กล่าวว่า เบื้องต้นมีบ้านประชาชนได้รับความเสียหาย 9 คูหา 5 ครอบครัว โดยบ้านเสียหายสิ้นเชิง 5 คูหา และเสียหายบางส่วนอีก 4 คูหา ซึ่งเป็นบ้านข้างเคียง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางสมบูรณ์ หม่อมร้อยเอ็ด เจ้าของบ้านต้นเพลิง ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป