บุรีรัมย์ - เกษตร จ.บุรีรัมย์ เตือนเกษตรกรงดเผาฟาง และตอชังข้าวหลังเก็บเกี่ยว เผยเกิดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน หน้าดินแห้งเสื่อมสภาพ ทั้งอาจลุกลามไหม้บ้านเรือน แนะไถกลบตอซังเพื่อปรับปรุงดิน และเพิ่มผลผลิตข้าวจะดีกว่า
วันนี้ (23 ม.ค.) เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังเก็บเกี่ยวข้าว ให้งดเผาฟาง และตอชังข้าว ซึ่งจะทำให้เกิดมลพิษในอากาศ เกิดภาวะโลกร้อน ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว มีอากาศแห้ง และลมกระโชกแรง อาจทำให้ไฟลุกลามไหม้บ้านเรือนผู้อื่นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีได้ ทั้งกลุ่มควันอาจไปบดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่รถบนท้องถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สินของผู้อื่นได้
ดังนั้น การเผาฟาง และตอชังข้าวไม่เป็นผลดีต่อเกษตรกร ขณะนี้พบหลายพื้นที่ได้เผาฟาง และตอชังข้าวบ้างแล้ว จากข้อมูลจังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวในปีการเพาะปลูก 2560/61 จำนวน 2 ล้านไร่เศษ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายรณรงค์ให้เกษตรกรไถกลบฟางข้าวเพื่อเป็นปุ๋ยให้แก่การปลูกข้าวในฤดูกาลผลิตต่อไป โดยการไถกลบฟางข้าว 1 ไร่ จะได้ปริมาณฟางข้าวน้ำหนักแห้ง 500-600 กิโลกรัม
นายนวนิตย์ พลเคน เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การเผาฟาง และตอชังข้าวของเกษตรกรยังส่งผลกระทบทำให้ดินแห้งเสื่อมสภาพ ปลูกข้าวได้ผลผลิตน้อย เกษตรกรควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการเผามาเป็นไถกลบตอชัง เพื่อเพิ่มธาตุอาหาร และความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน ทั้งจะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งจะเพิ่มผลผลิตข้าวได้อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ เป้าหมายการไถกลบฟางข้าวของจังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2561 คือ 1 แสนไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำหนัก 50,000 ตัน ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่การไถกลบฟางข้าวไปแล้วกว่า 5 หมื่นไร่ ปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ 25,000 ตัน คาดว่าภายในเดือนมีนาคม ถึงประมาณกลางเดือนเมษายน 2561 ก็จะสามารถไถกลบฟางข้าวได้ตามจำนวนเป้าหมายที่วางไว้