ระยอง - รองผู้ว่าฯ กนอ.สั่งหาสาเหตุหม้อต้มปนน้ำมันเครื่องของโรงงานอิวอนิค ยูไนเต็ด ซิลิกาฯ จ.ระยอง ระเบิด ทำนักศึกษาฝึกงานบาดเจ็บ เล็งเอาผิดโรงงานไม่แจ้งเหตุ ปรับ 2 หมื่น ด้านแม่นักศึกษายันโรงงานต้องช่วยค่ารักษาทั้งหมด ขณะกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ยันดูแลตลอด ใช้เงินกว่า 2 แสนแล้ว
วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบ กรณีนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระยอง สาขาวิชาเคมีอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานในบริษัท อิวอนิค ยูไนเต็ดซิลิกา (สยาม) จำกัด ถนนไอ 3 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ที่ประสบอุบัติเหตุหม้อต้มปนน้ำมันเครื่องความร้อน 150 องศา เกิดการระเบิด จนทำให้น้ำมันกระเด็นใส่หน้า และแขน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในห้องแล็บของโรงงาน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2560 หลังเกิดเหตุทางโรงงานฯ ได้ส่งตัวนักศึกษาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมาบตาพุด ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ซึ่งทางโรงงานไม่ได้แจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้รับทราบ จนกลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกสังคมออนไลน์
ล่าสุด น.ส.กฤตยาพร ทัพภะทัต รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้สั่งการให้ นายชุติสิทธิ์ เดชมูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายอภิรักษ์ อ่ำสุริยะ หัวฝ่ายโรงงานสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง นายวีระกิตต์ พูลสวัสดิ์ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ระยอง และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) ระยอง เดินทางไปประชุมร่วมกับ ดร.อูเว่ ดีทริช คูห์เนอร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อิวอนิค ยูไนเต็ด ซิลิกา (สยาม) จำกัด พร้อมด้วย นายสัญญา ภวัครานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ และนายชัชวาล ธัญญวรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยโรงงาน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง
ขณะที่ นายชุติสิทธิ์ เดชมูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กล่าวถึงผลสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นว่า อาจเกิดจากนักศึกษาฝึกงานได้เปิดฝาหม้อต้มที่มีน้ำมันเครื่องความร้อนอยู่ที่ 150 องศา ที่มีกระบอกทดสอบตัวอย่างของสารผลิตแก้วซึ่งเป็นของแข็งอยู่ภายใน ซึ่งหากเปิดฝาเพื่อนำตัวอย่างของผลิตแก้วออกมาจะต้องคีบออกมาตั้งให้เย็นก่อน แต่ก็ยังไม่ฟันธงว่านักศึกษาเปิดฝาหม้อต้มจนทำให้น้ำมันเครื่องที่ร้อนกระเด็นออกมาถูกหน้าผาก แขน และขาหรือไม่ อย่างไรก็ดี ทางโรงงานจะต้องมีมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ รวมทั้งมาตรการเยียวยาต่อไปด้วย
“ส่วนกรณีที่ทางโรงงานไม่รายงานให้การนิคมอุตสาหกรรมทราบเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง จะเป็นผู้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงานมาตรา 34(1) มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท” นายชุติสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางกาญจนา มารดาของนักศึกษา ว่า หลังเกิดเหตุบริษัทฯ ได้เข้ามาเจรจาพร้อมยื่นข้อเสนอเป็นเงิน จำนวน 20,000 บาท สำหรับการรักษา แต่ตนเองได้ปฏิเสธไป ทางบริษัทฯ จึงยื่นข้อเสนอเพิ่มเงินให้เป็น จำนวน 50,000 บาท ซึ่งตนเอง ยืนยันที่จะให้ทางบริษัทฯ รักษาใบหน้าลูกสาวให้หายเป็นปกติ และขอให้ช่วยดูแลในเรื่องค่ารักษาทั้งหมด
ด้าน ดร.อูเว่ ดีทริช คูห์เนอร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อิวอนิยูไนเต็ด ซิลิกา (สยาม) จำกัด พร้อมด้วย นายสัญญา ภวัครานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ และนายชัชวาล ธัญญวรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย ได้ร่วมกันชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า หลังเกิดเหตุบริษัทฯ ได้ติดตามผลการรักษา และติดต่อกับครอบครัว รวมทั้งวิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อรับทราบถึงความต้องการของผู้บาดเจ็บอยู่ตลอดเวลา และในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นักศึกษาได้ออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งทางบริษัทฯ ยังยืนยันว่า จะดูแลค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีรายงานว่าทางบริษัทฯ ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้วกว่า 2 แสนบาท
ด้าน นายยุทธนา อ่อนสัมกฤษ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคระยอง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางบริษัทฯ ได้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ซึ่งทางผู้ปกครองก็พอใจ แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงมีข่าวในลักษณะดังกล่าวออกมา อย่างไรก็ดี จะมีการเจรจาร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกันอีกครั้ง
